วันนี้ (21 มีนาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัว แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าโครงการครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวานนี้ (20 มีนาคม) เป็นสัญญาณเตรียมตัวสำหรับสนามเลือกตั้งหรือไม่ ว่าเป็นธรรมดาที่ทุกพรรคจะเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็เตรียมความพร้อมที่เชียงใหม่และพรรคพลังประชารัฐก็เตรียมประชุมใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแพทองธารเป็นลูกสาวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้คะแนนเยอะหรือไม่นั้น อนุทินกล่าวว่า ขออย่าดูว่าเป็นเพียงลูกสาวของทักษิณ และอุ๊งอิ๊งก็เป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถ และโตมาในครอบครัวที่ดี และมีความตั้งใจที่จะมารับใช้บ้านเมือง และเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชน เมื่อทุกฝ่ายกำลังแข่งขันด้วยนโยบาย ประชาชนก็จะมีทางเลือกเยอะขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอนาคตอุ๊งอิ๊งจะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เป็นได้อยู่แล้ว ใครที่มีความตั้งใจ จะทำอะไรให้บ้านเมืองก็เป็นได้หมด และส่วนตัวก็เห็นอุ๊งอิ๊งมาตั้งแต่ตอนพ่อไปทำงานมา 15-16 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าอนาคตจะร่วมงานกันได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่าขอให้เป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอนาคตครอบครัวเพื่อไทยกับภูมิใจไทยจะสามารถรวมกันได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่าขณะนี้ตนมีบ้านเดียว มีหลายบ้านไม่ได้ เดี๋ยวหัวแตก ก่อนที่จะหัวเราะ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะจบลงที่ผลการเลือกตั้ง เราต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย
อนุทินกล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเกิน 250 เสียง หรือเกิดแลนด์สไลด์ขึ้น ก็ให้เขาจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลภูมิใจไทยจะไปเข้าร่วมหรือไม่นั้น หากถึง 250 เสียง อนุทินกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้อย่าเพิ่งคิดว่าเราจะไปรวมกับใคร หรือรวมเมื่อใด คิดเพียงนโยบายเพื่อประชาชน ซึ่งเวลาที่เหลือหลังจากนี้ 1 ปี ต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น และผลประโยชน์ของบ้านเมือง สิ่งใดที่เห็นว่ามีการทุจริต ประชาชน และประเทศชาติ เสียผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งรัฐบาลเสียเปรียบ อย่างคดีโฮปเวลล์ รถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วย ที่ผ่านมาภูมิใจไทยได้แสดงให้เห็นจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว
ส่วนหากในอนาคตพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียง 1 ใน 3 ที่มีการประเมินเอาไว้ อนุทินย้ำว่าขอให้ไปถามประชาชน หากตัวเองเลือกได้ก็เลือกตัวเองเป็นที่หนึ่ง ชีวิตของนักการเมืองขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง ตนถึงได้มุ่งมั่นทำงาน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีการประเมินว่าอุ๊งอิ๊งจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกับทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น อนุทินมองว่า หากมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยเจตนาสุจริต ทำคุณประโยชน์ให้กับประชาชนและบ้านเมือง ยิ่งกว่าการมีเกราะป้องกัน เพราะประชาชนจะเป็นผู้ปกป้องเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความขัดแย้งระหว่าง เนวิน ชิดชอบ และทักษิณในอดีต อนุทินมองว่าไม่มีอะไร กระแสข่าวต่างๆ เป็นเพียงการวิเคราะห์ของสื่อที่อยู่นอกเวที คนที่อยู่ในเวทีการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เราขัดแย้งไม่เห็นไม่ตรงกันได้ หรือเดินกันคนละเส้นทางได้ แต่ในมุมส่วนตัวเราไม่ทำร้ายหรือเกลียดกัน ในช่วงหลังเริ่มมีแนวนี้แต่เราต้องดึงกลับมาให้ได้ การเห็นต่างเป็นสิ่งที่ดีในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่นำความเห็นต่างนั้นมาแก้แค้นกัน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นประชาธิปไตย มันแย่ยิ่งกว่าระบบเผด็จการ หากจะนำความเกลียดชังมาทำร้ายกัน แบบนี้ใช้ไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ระหว่างเนวินและทักษิณไม่มีอะไรบาดหมางแล้วใช่หรือไม่นั้น อนุทินกล่าวว่า กาลเวลา คนเราเมื่ออายุมากขึ้นก็ไม่มีอะไรกัน ไม่ได้พบปะหรือพูดคุย
เมื่อถามว่าได้มีการเตรียมตัวรับศึกซักฟอกหรือไม่นั้น อนุทินกล่าวว่าต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องใด เราก็ต้องไปตอบให้ตรงคำถาม อย่าไปให้เขาถามไม่ตรงคำตอบ แต่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเองก็มีความพร้อม และไม่มีอะไรออกนอกแถว นอกจากเรื่องโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ ส่วนเรื่องทุจริตนั้นไม่มีแน่นอนอยู่แล้ว