วันนี้ (6 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงประเด็นความคาดหวังของพรรคในการเลือกตั้งรอบหน้าที่จะต้องได้ ส.ส. มาอย่างน้อย 120 เสียง ว่าเป็นพรจากผู้ใหญ่และเป็นเป้าหมายของพรรค ท่านพูดก็แปลว่าพรรคภูมิใจไทยมีศักยภาพที่จะทำได้ เรื่องแบบนี้เราไม่ล้อเล่น มันต้องพยายามเต็มที่ จะผ่อนเครื่องไม่ได้
ส่วนจะมาจากไหน ก็ต้องมาจากการทำงานหนักของพรรคภูมิใจไทย ที่หมายถึง ส.ส. ของพรรคและสมาชิกพรรคทุกคนต้องลงพื้นที่เข้าชาร์จปัญหาเลย การทำนโยบาย อย่าไปมองว่าต้องทำเฉพาะที่หาเสียงไว้ แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ต้องทำด้วย ยกตัวอย่างเรื่องฟอกไตฟรี นี่ไม่เคยเป็นนโยบายของพรรค แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้ป่วยฟอกไต จ่ายครั้งละ 1,500 บาท สัปดาห์หนึ่งฟอก 2 ครั้ง จ่าย 3,000 บาท ไหนจะค่าเดินทางอีก ภาระของประชาชนก็ต้องหาทางช่วย ประเทศไทยมีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องทำให้ได้แบบนั้นจริงๆ มีความสามารถจะช่วยได้ก็ต้องหาทาง ตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่การมาเป็นนายกรัฐมนตรี คือตำแหน่งที่ทุกขลาภ อนุทินกล่าวว่า มาทำงานการเมืองมีเรื่องให้เจ็บตัวอยู่แล้ว ส่วนตัวมีพร้อมแล้ว ทั้งการศึกษาและประสบการณ์ ก็อยากนำมาช่วยบ้านช่วยเมือง แน่นอนว่าเข้ามาตรงนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่เข้าใจได้ เพราะงานของเรามันเกี่ยวพันกับคนทั้งประเทศ เสียงสะท้อนเข้ามาจึงมากมายหลากหลาย สิ่งที่เป็นประโยชน์ ตนพร้อมรับฟังและปรับใช้ เพื่อพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น
ส่วนคำถามเรื่องความกังวลที่มี ส.ส. เตรียมย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทยจำนวนมาก ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับพรรคการเมืองอื่น อนุทินตอบว่า “การย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ ผมก็เคยย้ายพรรค ก่อนจะมาอยู่ไทยรักไทย ก็อยู่พรรคชาติพัฒนามาก่อน แล้วก็ย้ายจากไทยรักไทยมาอยู่ภูมิใจไทย เรื่องนี้มันธรรมดามาก มันอยู่ที่ว่าย้ายมาแล้วทำงานได้หรือเปล่า ซึ่งผมอยู่ตรงนี้ ผมทำงานได้เต็มที่”