วันนี้ (22 กรกฎาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ประชุมคณะกรรมการอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท โดยจะทบทวนงบของท้องถิ่น 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและการพัฒนาทุนมนุษย์ ว่า ตนไม่ได้ตามเรื่องนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถ้าถูกตัดงบจริง อาจจะเป็นความบกพร่องของผู้รับผิดชอบคนก่อน อนุทิน กล่าวว่า “ตัดเสื้อไว้ อะไรก็กู” แต่ก็ไม่เป็นไร ในขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ด้วยความถูกต้อง และเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มองอย่างไรที่ทางพรรคเพื่อไทยไล่บี้พรรคภูมิใจไทยในหลายๆเรื่อง อนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้มอง และไม่ได้มีใครมาไล่บี้ ส่วนคดีฮั้ว สว. ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตน ซึ่งเรื่องที่ตนเองโดนก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการเรื่องฮั้ว สว. มีกรอบระยะเวลาขั้นต่ำ 8 เดือน หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกไปชี้แจงพร้อมหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ถ้าเรียกไปชี้แจงตามอำนาจตามกฎหมายก็ต้องไป ส่วนจะชี้แจงรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับกฎหมายกำหนด แต่ดีที่สุดคือการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะจะมีหลักฐานทุกอย่างไว้ ก่อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “8 เดือนเลยหรือ ก็ดีจะได้มีเวลาชี้แจง และพิสูจน์”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มองเป็นการถูกเช็กบิลย้อนหลังหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามว่าใครสั่ง ซึ่งพวกตนไม่เคยทำเรื่องนี้ เพราะพวกตนมีความมุ่งมั่นทุ่มเทซื่อสัตย์สุจริต และไม่ได้เที่ยวหาเรื่องคนนั้นคนนี้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นความสงบในบ้านเมืองจะไม่เกิด
เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวถึงการเลือกบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ อย่างตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการพุ่งเป้าว่าคนที่ได้รับการสรรหาเป็นคนที่เคยเป็นอดีตอธิบดีกรมทางหลวง ในสมัยที่ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อนุทินกล่าวว่า ถ้าทำเสื้ออะไรก็กู ออกมา คงขายดีมาก ขอให้มโนกันน้อยๆ หน่อย จะได้ไม่มีวาทกรรมประหลาดเกิดขึ้น และย้ำว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรี และสส.ของพรรคเพื่อไทย พาดพิง อนุทิน และพรรคภูมิใจไทยตลอด อนุทิน กล่าวว่า ท่านทั้งหลายที่มีการพาดพิงมาไม่ได้พูดกับตน พวกเขาพูดกับประชาชน ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ อย่างไรก็ตาม ต้องดูความจริง เรื่องไหนที่ถึงโรงถึงศาลอยู่ก็ต้องให้การพิสูจน์ข้อเท็จจริง ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกังวล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่เขาดิสเครดิต เพราะกังวลว่า อนุทินจะมาเป็นคู่เทียบชิงนายกฯหรือไม่ หากมีการเลือกนายกฯ ครั้งที่สาม อนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลนัดดินเนอร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วย และมีทักษิณ เข้าร่วมรู้สึกใจหวิวหรือไม่ เพราะปกติพรรคภูมิใจไทยจะต้องอยู่ร่วมวงด้วยว่า จะไปหวิวได้อย่างไร เพราะวันนี้เราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลแล้ว ถ้าอยู่ในรัฐบาลแล้วไม่ได้ไป อย่างนั้นต้องหวิว แต่นี่ไม่ได้รู้สึกอะไร ตนก็มาดินเนอร์กับพรรคตน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ทักษิณไปร่วมวงดินเนอร์ด้วยจะเป็นการครอบงำหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องมองอะไรแล้ว เอาสรรพกำลังทั้งหมดไปช่วยเลือกตั้งศรีสะเกษ ให้พรรคภูมิใจไทยชนะดีกว่า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ว่าจะเป็นการวัดความนิยมขาขึ้นของพรรคภูมิใจไทย หรือขาลงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า เราส่งผู้สมัคร เป็นผู้แทนของพรรคภูมิใจไทยลงไป เพราะเราอยากได้ผู้แทนของประชาชนทุกเขต เพราะเราเชื่อว่า ผู้แทนของพรรคภูมิใจไทยจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนและคนในพื้นที่ได้
ส่วนการพาดพิงของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า “ไม่ปราบยาเสพติด พรรคภูมิใจไทยจอมขวาง” อนุทินกล่าวว่า เรื่องการปราบยาเสพติด ผู้สื่อข่าวเป็นพยานให้ตนเองได้ ถ้านับกันวันต่อวัน เรื่องการปราบยาเสพติด จะมี มท.1 คนไหน จับที่จังหวัดแพร่ก็ไป หรือที่อำเภอแม่แตง ริม ด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี หรือจับที่จังหวัดลำพูนก็ไป ตนว่าตรงนี้พิสูจน์ได้ง่ายมาก ไม่ใช่เรียกประชุมวันเดียว ก็ถือเป็นผลงานได้แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดทัพใหญ่เพื่อลงพื้นที่ ปราศรัยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดศรีสะเกษนั้น อนุทินกล่าวว่า ไม่ได้จัดชุดใหญ่ เป็นเพียงการปราศรัยกับพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ ไม่มีการจัดตั้งใดๆ ทั้งสิ้น สส. คนไหนว่างก็ลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการพาดพิงของทักษิณ ระบุว่าหาเสียงที่จังหวัดศรีสะเกษล่าสุด ต้องโทรศัพท์ให้นายอำเภอมารอรับ อนุทินหัวเราะ พร้อมระบุว่า “คนประจบสอพลอ นำข่าวแบบนี้ไปเรียนท่าน ท่านต้องห่างๆ ไว้นะ แบบนี้มีที่ไหนล่ะครับ อย่าว่าแต่ตอนนี้ไปเลย ตอนเป็น มท.1 ก็ไม่เคยมีผู้ว่า และผู้ว่าฯ หรือนายอำเภอมา แอบไปน่านหลายครั้ง ไปกินก๋วยเตี๋ยวกระหนุงกระหนิงกับแฟน ไป จังหวัดนครศรีธรรมราช กว่าผู้ว่าฯ จะรู้ ก็ต้องโทรตามกลับ ไปเองเท่จะตาย จะต้องสำแดงฤทธิ์เดชอะไร แบบนั้นไม่ใช่ของจริง” พร้อมยืนยันว่า ไม่มีนายอำเภอมารอต้อนรับอย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหวั่นใจหรือไม่ ที่สนามการเลือกตั้งนี้ จะมีทักษิณไปร่วมลงพื้นที่หาเสียงด้วย อนุทินร้องเพลง “หวั่นใจ หวั่นใจจะไม่รัก”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เนวิน ชิดชอบประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด พร้อมด้วยพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ไปร่วมแสดงความยินดีกับ สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส. ตรัง และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร จะเป็นการดึงเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทินตอบว่า “เห็นไหม ไปแต่เรื่องที่เป็นบวกทั้งนั้น ไปรักกันดีกว่า ไปไหนต้องไปรักกัน ไปสร้างมิตรภาพ คนเราอยู่ไม่ถึง 100 ปี ก็ตายหมดแล้ว ที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็ใกล้ๆ กันนั้น”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สส. พรรคประชาธิปัตย์ จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพิพัฒน์ ซึ่งเป็นแม่ทัพภาคใต้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามชินกับการเป็นฝ่ายค้านแล้วหรือยัง อนุทิน กล่าวว่า หน้าที่ที่มีความภาคภูมิใจที่สุดสำหรับตน คือการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะตนเคยพูดตลอดว่าสิ่งที่ถ้าจะต้องเลือก คือ ต้องเลือกเป็น สส.ไว้ก่อน