วันนี้ (31 กรกฎาคม) ที่สวนมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน
อนุทินกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน เป็นมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปราม เตือนภัยอันตรายที่บั่นทอนสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ด้วยเหตุผลนี้ ปัจจัยในการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่แรก โดยลดจำนวนผู้ติดยาเสพติดหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนในระบบการศึกษา โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อป้องกันนักเรียน นักศึกษา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นอกจากนั้น ครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ จะต้องคอยเป็นแบบอย่างไม่ว่าจะรูปแบบใด เพื่อทำให้ประชาชนมีความเชื่อถือและศรัทธา อันจะนำไปสู่ความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
อนุทินกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดมีความเกี่ยวข้องกับทั้ง 3 กระทรวงโดยตรงในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ สำหรับกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่โดยตรงในการบังคับใช้กฎหมายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ยังต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนปลอดจากการเสพติด ซึ่งจะเสริมพลังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อนุทินกล่าวว่า ตนเชื่อว่าการลงนามในวันนี้จะทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อ และบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ตนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อนำพาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
อนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม) มีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากนี้จะมีหนังสือกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้เข้มงวดกับนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ ทุกรูปแบบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้ตรวจซ้ำทุกพื้นที่ (Re X-Ray) ไม่ใช่แค่ทำครั้งเดียวและไม่ได้ติดตาม อีกทั้งต้องทำให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในบางจังหวัดที่ยังดำเนินการต่ำกว่าเป้าหมายนั้น อนุทินกล่าวว่า บางจังหวัดก็เกินเป้า เข้าเป้า หรือต่ำกว่าเป้า หากต่ำกว่าเป้า กระทรวงมหาดไทยต้องไปเร่งรัดและสอบถามว่าเป้าหมายคืออะไร เพราะบางจังหวัดไม่ใช่แหล่งค้า แหล่งสัญจร เส้นทางการขนย้ายยาเสพติด เป้าในจังหวัดนั้นก็จะต่ำ มีปริมาณยาเสพติดไม่เท่ากัน อย่างจังหวัดตามชายแดนหรือจังหวัดที่เป็นจุดกระจายยาเสพติด เราก็โฟกัสอยู่ตลอดเวลาเพื่อเร่งจับกุม
อนุทินกล่าวต่อว่า ยาเสพติดไม่ได้ผลิตในประเทศไทย หากผลิตในประเทศไทยก็ทำลายโรงงานทิ้งไปแล้ว ตรงไหนที่เราเห็นว่ามีระบบสาธารณูปโภคไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และทำผิดกฎหมาย เช่น ระบบไฟฟ้าไปยังโรงงานผลิตยาเสพติด, สายสื่อสารไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับรองว่าทุกจังหวัดมีมาตรการปราบปรามยาเสพติดในสถานศึกษา เพราะทุกคนมีความรังเกียจต่อเครือข่ายยาเสพติด มาเมื่อไรก็จับ