วันนี้ (17 มิถุนายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการจับคู่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความเสี่ยงจากโควิด-19 ในระดับต่ำ หรือ Travel Bubble ว่า
มอบหมายให้กรมควบคุมโรค และรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ไปหารือกับต่างประเทศแล้ว เพื่อรับทราบมาตรการของกันและกัน เรื่องนี้เราคุยกันเป็นรายประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็มีระดับความปลอดภัยแตกต่างกัน มาตรการที่เราใช้ย่อมไม่เหมือนกัน ที่สุดแล้วการดำเนินการนอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ก็ต้องคำนึงถึงพื้นฐานความปลอดภัยของประชาชนเช่นกัน
จำเป็นต้องทำ MOU ระหว่าง 2 ประเทศ ว่ามาตรการจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติ หากใครปฏิบัติไม่เป็นไปตาม MOU หรือเงื่อนไขไม่ตรงกับ MOU สามารถยกเลิกสัญญาระหว่างกันได้ ทั้งนี้กลุ่มที่จะมีโอกาสเข้ามาก่อนคือกลุ่มนักธุรกิจ วิศวกร และครู ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ มาตรการทั้งหมดต้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณา เพราะท่านเป็นประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.
ขอย้ำว่ายังไม่ได้กำหนดว่าประเทศไหนจะได้สิทธิ์ก่อน เพราะต้องดูมาตรการของแต่ละประเทศ และสถานการณ์ของแต่ละประเทศ รวมไปถึงผลของการหารือด้วย สิ่งที่น่ายินดีคือ มีทูตหลายประเทศได้หารือกับทางการไทย แสดงความสนใจที่จะให้ประชาชนเดินทางมาที่ประเทศไทย แสดงว่าประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูง ในอนาคตความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสให้ไทยได้เรียกคืนสิ่งที่เคยเสียไปกลับคืนมา สำหรับคนไทย ขอให้รักษาวินัยไว้เช่นที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า