×

อนุสรณ์ขอเชื่อมั่นเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด ย้ำจุดยืน เศรษฐาไม่ยกเลิก ไม่แก้ ม.112 แนะก้าวไกลถอดบทเรียน อย่าใช้วิธีขอเสียงหนุนไปด่าไป

โดย THE STANDARD TEAM
01.08.2023
  • LOADING...
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

วันนี้ (1 สิงหาคม) อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. จังหวัดกรุงเทพมหานคร และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ พรรคก้าวไกลไม่โง่ตามเกมสกปรก ลักหลับ บีบ 151 เสียงโหวต ว่าน่าเสียดายที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 376 เสียง ถ้าสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกป่านนี้ประเทศไทยคงได้คณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศแล้ว

 

ใครจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่ลืมว่า 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยโหวตให้พิธา 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่มีแตกแถวแม้แต่เสียงเดียวทุกครั้ง แม้ถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยมีที่นั่งห่างจากพรรคก้าวไกลเพียง 8 ที่นั่ง และมีแนวโน้มที่ระยะห่างจะใกล้เข้ามาอีก แต่พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยดีมาตลอด แม้แต่กรณีโหวตรองประธานสภาจากพรรคก้าวไกลก็ 141 เสียงเต็มพิกัด

 

“ความกลัวทำให้เสื่อม อย่ามัวแต่ฟาดงวงฟาดงา ถ้าพอมีเวลาลองไปถอดบทเรียนจากผลนิด้าโพลที่ชี้ประชาชนมองพรรคก้าวไกลผิดพลาด เพราะไม่ยอมยกเลิกบางนโยบาย ไม่ใช่ไปโทษทุกคน แล้วตัวเองไม่ยอมปรับตัว สิ่งใดทำผิดก็ปรับแก้ทำใหม่” อนุสรณ์กล่าว

 

อนุสรณ์ยังกล่าวอีกว่า ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยมีใครพูดว่าหลังเลือกตั้งจะโหวตพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้ แม้กองเชียร์แฟนคลับพรรคเพื่อไทยจำนวนมากจะไม่สบายใจ แต่ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยก็โหวตให้พิธาเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง

 

พรรคก้าวไกลเคยเสนอ ส.ส. ซีกพรรครัฐบาลเดิม ต้องเคารพฉันทมติจากประชาชน โหวตเลือกพิธาเป็นนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำไมพอจะโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยบ้างถึงสร้างเงื่อนไขขึ้นมา

 

อนุสรณ์กล่าวว่า “จนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหาเลย เพียงแต่จะนำข้อหารือจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคให้ได้ร่วมกันตัดสินใจ ไม่ควรมีใครใช้วิธีขอเสียงสนับสนุนไปด่าไป เราจะขอเสียงจากเขาโดยไม่คุยกับใครเขาเลยได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัด ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ”

 

ส่วนกรณี เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ระบุ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ควรย้ำจุดยืนให้ชัดแก้-ไม่แก้มาตรา 112 นั้น อนุสรณ์กล่าวว่า เศรษฐายืนยันอย่างชัดเจนว่าการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสมและส่วนตัว ยอมรับการแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไปต้องไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. และจากหลายๆ พรรค ประชาชนเห็นจุดยืนของเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยที่จะไม่ยกเลิกไม่แก้ไขมาตรา 112 ชัดเจน

 

“ผลสำรวจ 100 ซีอีโอ ระบุชัด ประเทศไทยต้องไปต่อ ไม่ควรรอ 10 เดือน โอกาสครั้งสำคัญที่ ส.ส. และ ส.ว. จะนำพาประเทศออกจากวิกฤตมาถึงแล้ว” อนุสรณ์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X