วันนี้ (31 พฤษภาคม) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ถึงกรณีการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แต่ติดล็อกคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่วินิจฉัยว่าระยะแรกเท่านั้นที่รัฐจะเป็นผู้ซื้อ อปท. และภาคเอกชนไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อโดยตรงได้ ว่าตามกฎหมาย อปท. ทุกรูปแบบ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พัทยา กทม. สามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนที่ต้องการได้ โดยสามารถดำเนินการได้เอง
แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่าการดำเนินการทำไม่ได้ ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งตรงไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ตามกฎหมายแล้วกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจะต้องแจ้งไปยัง อปท. แล้วจึงจะแจ้งกระทรวงมหาดไทยทราบ โดยสรุปได้แจ้งไปยัง อปท. ให้ยุติการดำเนินการ จึงยังไม่มี อปท. จัดซื้อ เพราะข้อแนะนำดังกล่าวมาถึงการพิจารณาข้อเสนอแนะผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่าในระยะแรกเท่านั้นที่บอกว่าไม่สามารถให้ภาคเอกชนและ อปท. ดำเนินการจัดซื้อ แต่ถ้าพ้นระยะแรกเมื่อไรก็สามารถกระทำได้ตามอำนาจหน้าที่ คงไม่ต้องไปถามผู้ตรวจการแผ่นดินอีก
อย่างไรก็ตาม อปท. 7,000 กว่าแห่ง อบจ. 76 แห่ง จัดซื้อวัคซีนได้ มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยออกระเบียบไว้ เมื่อมีโรคติดต่ออันตรายให้ อปท. สนับสนุนการระงับการแพร่ระบาดได้ โดยสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการควบคุมโรคติดต่อ จะต้องประสานในทางปฏิบัติและด้านนโยบาย ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจขณะนี้คือกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
“เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ถ้าจะต้องมีการหารือก็ต้องได้ข้อยุติจาก ศบค. เพราะถ้ามีการจ่ายวัคซีนของรัฐผ่าน ศบค. และ อปท. ซื้อเองอีก ใน อบจ. บางแห่งอาจจะได้วัคซีนมากเกินไป จะเกิดความเหลื่อมล้ำกับ อบจ. เล็กๆ ดังนั้นถ้าดูจากสถานการณ์ อย่างไรก็ต้องให้ ศบค. พิจารณาว่าผ่านระยะแรกไปหรือยังว่าจะให้เอกชนและ อปท. มาสนับสนุนฝ่ายรัฐ และถ้าเอกชนและ อปท. จะซื้อก็ต้องให้รัฐซื้อให้ เพราะเป็นวัคซีนฉุกเฉิน” พล.อ. อนุพงษ์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์