วันนี้ (17 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทระหว่างฆราวาสกับพระสงฆ์ ว่าได้ย้ำให้ทาง พศ. ดำเนินการในส่วนที่จำเป็น และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้นมีเรื่องแล้ว
“เราอยู่มา 2,500 ปี เรามีพระที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าดูแลมาตลอด เป็นมาตลอด 2,500 ปี จนถึงปัจจุบัน คงไม่พึ่งใครคนใดคนหนึ่งที่บอกว่ามาจัดการเพื่อศาสนา ผมคิดว่าการกระทำบางอย่างมันเหมือนดี แต่สิ่งนี้ทำให้ผู้คนมองผ้าเหลือง มองศาสนาไปอีกอย่างหนึ่ง ท่านคิดว่าท่านทำถูกแล้วหรือ ในระยะยาวท่านทำไม่ถูก ศาสนาเรามีมา 2,500 ปี ไม่ต้องพึ่งท่านหรอก เพราะท่านมีจิตใจที่ไม่ปกติแน่นอน” อนุชากล่าว
อนุชาระบุถึงกรณีที่มีบางฝ่ายมองว่า พศ. ไม่เข้มแข็งที่จะมาจัดการในเรื่องนี้ว่า ไม่ใช่ พศ. ไม่เข้มแข็งพอ แต่ทำอะไรไม่จำเป็นต้องบอกทั้งหมด แต่ทุกอย่างอยู่ในสารบบ ซึ่งหลายเรื่องมากที่ทำและทำมาตลอด
ทั้งนี้ การดำเนินการทางกฎหมายกับ จีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา อนุชากล่าวว่า ทุกอย่างว่าตามกฎหมาย อะไรที่ยอมไม่ได้เป็นอาญาแผ่นดินก็เป็นอาญาแผ่นดิน ซึ่งทาง พศ. ก็ต้องดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการละเว้น
อนุชายังกล่าวถึงการจัดการกับพระผู้ดูแลติดตามพระผู้ใหญ่ว่า มีการจัดการอยู่แล้วเป็นมติมหาเถรสมาคมในเรื่องการกำกับดูแลพระเป็นลำดับชั้นและกำลังตั้งโทษในส่วนที่เกี่ยวแต่ละลำดับชั้นในการดูแลพระใต้ปกครอง และยืนยันว่า พศ. ไม่นิ่งเฉย แต่เรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ความเชื่อและความศรัทธามีอยู่ในสังคมไทย แต่ยืนยันว่าความเชื่อและคำสอนของพระพุทธศาสนามีมาตั้งแต่อดีตกาล มีเรื่องศรัทธามาตั้งแต่อดีต ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่งบอกจะมาบริหารจัดการสิ่งที่มีมา 2,500 ปี ตนคิดว่าไม่ถูก และบางครั้งต้องเข้าใจว่าโลกปัจจุบันต้องการสีสัน ซึ่งส่วนตัวไม่ต้องการสร้างความแตกแยกไปมากกว่านี้
เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับ ให้มีโทษอาญาทั้งพระและสีกาที่ร่วมประพฤติผิด อนุชากล่าวว่า ยังไม่มีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนี้ต้องมีการพูดคุยวงกว้าง เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยไม่ใช่เกิดเรื่องแล้วตัดสินใจเลย บางครั้งหลักการของประเทศจะมาตัดสินใจเลยไม่ได้
“บางครั้งผมอดทนอดกลั้นไม่เป็นไร ใครว่าใครกล่าวก็อดทน แม้ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เป็นประเด็นในเรื่องของศาสนา แต่ผมก็เป็นฆราวาสคนหนึ่งเหมือนพวกเรา ที่ไม่อยากเห็นศาสนาของเราที่เป็นเสาหลักของเราสั่นคลอน ผมรับรองได้อยู่ในใจของผมแบบสุดๆ บางครั้งต้องบอกว่าเกือบจะเหลืออด ขอพูดไว้แค่นี้” อนุชากล่าว