วันนี้ (21 มกราคม) พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มต้านทักษิณยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องกรณีการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล โดยมี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมประกาศเตรียมยกระดับชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล
พร้อมพงศ์มองว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ชอบทำตัวเป็นศาลเตี้ย ไม่ดูข้อกฎหมาย ไม่มองข้อเท็จจริงอะไรเลย เพราะเรื่องที่ออกมายื่นหนังสือก็มีหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่กันอยู่แล้ว ซึ่งก็ชัดเจนไปแล้วหลายเรื่อง แต่คนพวกนี้ก็ยังจะหากินกับความขัดแย้งแบบไม่จบไม่สิ้น จมปลักกับอดีต ความพยายามออกมาปลุกปั่นยุยงประชาชนในช่วงนี้หวังผลอะไรหรือไม่
“แต่ละคนที่ออกมารวมตัวในครั้งนี้ ในอดีตก็เคยได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองกันทั้งนั้น มีทั้งพวกผูกขาดแพ้เลือกตั้ง ได้ดีเพราะรัฐประหาร แต่ก่อนก็เห็นเงียบซึมเหมือนคนใบ้ไร้เสียง พอวันนี้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย บ้านเมืองสงบสุข เศรษฐกิจกำลังจะดี พวกนี้ก็เหมือนจะตกงาน ขาดความสำคัญ ถึงได้ออกมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ออกมาข่มขู่รัฐบาลแบบรายวัน” พร้อมพงศ์กล่าว
พร้อมพงศ์ชี้ว่า เรื่องเหล่านี้ทำไปด้วยความมีอคติกับทักษิณ ไม่คิดจะเคารพเสียงประชาชน ไม่ปล่อยให้รัฐบาลได้ทำงานเพื่อบ้านเมือง โดยเฉพาะออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ เพราะเห็นกระแสของพรรคเพื่อไทยที่กำลังมีความนิยม จึงพยายามสร้างเรื่องลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล
พร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า การออกมากดดันให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำตามกฎหมาย เรื่องนี้จริงๆ ไม่ต้องกดดันอะไรนายกรัฐมนตรี ท่านก็ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ทุกเรื่องก็ต้องมีขั้นตอน มีหน่วยงานรับผิดชอบ แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ ต้องทำงานให้คนหมู่มาก แต่ต้องมาทำตามสิ่งที่คนกลุ่มนี้เรียกร้อง ไม่อย่างนั้นจะชุมนุมอย่างนี้ไม่ได้ เพราะไร้สาระ
“ผมอยากให้กลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันมายื่นหนังสือในครั้งนี้ไปตั้งพรรคการเมืองแล้วมาทำการเมือง ลงเลือกตั้งสมัยหน้ากันเลย ก็เอาสิ่งที่ตนเชื่อหาเสียง รณรงค์กันให้เต็มที่ แล้วมาดูกันว่าจะมีประชาชนเชื่อท่านมากน้อยแค่ไหน อยากรู้เหมือนกันว่าความนิยมของท่านจะมีเท่าไร แข่งกันตามกติกาประชาธิปไตยกันเลยดีกว่าออกมาก่อความวุ่นวายแบบไม่รู้จักจบจักสิ้น ถามว่ากล้าพอไหม ใจถึงกันหรือเปล่า” พร้อมพงศ์กล่าว