วันนี้ (10 เมษายน) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยมี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้แสดงความห่วงใยผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งรายได้จากการประกอบอาชีพลดลง และลูกหลานอาจไม่สามารถช่วยเหลือทางการเงินได้เท่าเดิม จึงมีมติออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุทุกคน ซึ่งมีประมาณ 4.1 หมื่นราย โดยระยะเวลาพักชำระหนี้ 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564 ผู้กู้สามารถแสดงเจตจำนงในการขอพักหนี้ โดยติดต่อกองทุนผู้สูงอายุ หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด หรือส่งจดหมายขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ผู้ค้ำประกันและพยาน 2 คน ลงนาม พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนา และส่งกลับมายังสำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัด หรือกองทุนผู้สูงอายุ ทั้งนี้ จุรินทร์ได้กำชับให้การดำเนินการในเรื่องนี้ต้องเป็นไปอย่างสะดวกต่อผู้สูงอายุให้มากที่สุด
ในส่วนของเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4.84 ล้านคน (ไม่ใช่เบี้ยผู้สูงอายุ แต่เป็นเงินสงเคราะห์ที่จ่ายเพิ่มเติมจากเบี้ยผู้สูงอายุ) ซึ่งปัจจุบันมีงบประมาณไม่เพียงพอ ที่ประชุมได้ติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทราบว่ากรมกิจการผู้สูงอายุได้ประสานสำนักงบประมาณเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี จัดสรรงบกลาง ประจำปี 2563 จำนวน 689 ล้านบาทแล้ว เพื่อจัดสรรให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2563
รัชดากล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการรองรับสังคมสูงวัยคนไทยอายุยืน 4 มิติ ครอบคลุม เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สุขภาพ และสังคม มีสาระสำคัญ อาทิ การเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าสู่ผู้สูงวัย โดยเสนอปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ ให้เด็กต่ำกว่า 15 ปีสามารถเป็นสมาชิกกองทุนได้ (พ่อแม่เป็นผู้ออมแทน) การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการบูรณาการ และขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน การยกระดับผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ จัดให้มีศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพทุกอำเภอควบคู่กับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะนำเสนอสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์