แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ชี้แจงหลังมีกระแสข่าวขายช่อง JKN18 ให้ TOP NEWS ในมูลค่า 500 ล้านบาท โดยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับ TOP NEWS เพื่อร่วมผลิตรายการประเภทข่าวสารและสาระระหว่าง JKNBL และ TOP NEWS เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดผังรายการเพื่อจัดสรรช่วงเวลาออกอากาศ
หลังมีกระแสข่าวที่ถูกพูดถึงอย่างครึกโครมในโลกโซเชียลมีเดียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เตรียมขายช่อง JKN18 ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลในประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด (JKNBL) ซึ่งทาง JKN ถือหุ้น 100% ให้กับกลุ่มบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด (TOP NEWS) รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หุ้น ‘JKN’ ของ ‘แอน จักรพงษ์’ มูลค่าดิ่งกว่า 4 พันล้านบาทจากจุดสูงสุด หลังประกาศเข้าซื้อ Miss Universe
- EXCLUSIVE: ถอดบทเรียนจาก 5 บริษัท ‘เบี้ยวหนี้หุ้นกู้’ ทำนักลงทุนขยาด High Yield Bond
ล่าสุด แอน จักรพงษ์ รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด (TOP NEWS) ในการร่วมผลิตรายการประเภทรายการข่าวสารและสาระระหว่าง JKNBL และ TOP NEWS เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดผังรายการเพื่อจัดสรรช่วงเวลาการออกอากาศ โดยบริษัทจะได้รับค่าตอบแทนตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน โดยการเข้าทำรายการในครั้งนี้มีความสมเหตุสมผลเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท
ทั้งนี้ JKNBL ยังเป็นผู้ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เช่นเดิม และมิได้ขายสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ตามที่ปรากฏในรายงานข่าวแต่อย่างใด
การร่วมผลิตรายการในครั้งนี้จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับช่อง JKN18 เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญทางด้านรายการบันเทิง และรายการข่าวด้านเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ในขณะที่ TOP NEWS มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มรายการข่าวสารและสาระในการเสนอข้อเท็จจริงในทุกๆ ด้าน
การนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันความนิยมของผู้ชม รวมถึงขยายฐานผู้ชมช่อง JKN18 ให้มีจำนวนมากขึ้น สามารถเสริมสร้างให้ธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต