แอน จักรพงษ์ แจงกรณีขายหุ้น JKN ออกมาจำนวนรวม 92 ล้านหุ้น มูลค่า 117 ล้านบาท เพราะถูก Force Sell เนื่องจากราคาหุ้นร่วงหนักกว่า 50% ภายใน 2 วัน ระบุรับโอนหุ้นจากน้องสาวเข้ามาเพิ่มอีก 77 ล้านหุ้น ดันสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 38% รั้งตำแหน่งผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 พร้อมยันมีแนวทางแก้ไขเรื่องหุ้นกู้แล้ว
วานนี้ (6 กันยายน) จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน จักรพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN รายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ได้ขายหุ้น JKN จำนวน 92,027,375 หุ้น หุ้นละ 1.27 บาท รวมเป็นมูลค่า 116.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- EXCLUSIVE: ถอดบทเรียนจาก 5 บริษัท ‘เบี้ยวหนี้หุ้นกู้’ ทำนักลงทุนขยาด High Yield Bond
- ชมคลิป: ตลาดหุ้นกู้ระส่ำ JKN ขาดเงิน เบี้ยวจ่ายคืนหนี้ | Morning Wealth 1 ก.ย. 2566
ต่อมาในวันที่ 4 กันยายน 2566 ได้ขายหุ้น JKN เพิ่มอีกจำนวน 36,800 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.07 บาท คิดเป็นมูลค่า 39,376 บาท
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 มีนาคม 2566) แอน จักรพงษ์ ถือหุ้นใน JKN อยู่ที่ 183,018,523 หุ้น หรือคิดเป็น 24.55%
ก่อนหน้านี้ JKN ขอเลื่อนชำระหุ้นกู้ชุด JKN239A โดยชำระเงินต้นบางส่วนจำนวน 146,618,630.14 บาท และดอกเบี้ยจำนวน 9,981,369.86 บาท รวมเป็น 156,600,000 บาท และเหลือยอดค้างชำระ 443,400,000 บาท จากจำนวนเต็มทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 609,981,369.6 บาท
เป็นเหตุให้ แอน จักรพงษ์ ออกแถลงการณ์ถึงปัญหาการเลื่อนชำระหุ้นกู้ชุด JKN239A (ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการขายหุ้นจำนวน 92 ล้านหุ้น)
โดยในวันที่ 1 กันยายนนั้น แอน จักรพงษ์ ได้แถลงข่าวว่า บริษัทมีความพร้อมชำระ 156.6 ล้านบาท ส่วนจำนวนที่เหลือจะจ่ายให้ครบและจะทบดอกเบี้ยให้ โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด จะเป็นผู้ติดต่อผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันที่ 11 กันยายน 2566 และจะเสนอแนวทางการแก้ไขต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ วันที่ 27 กันยายน 2566 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าว โดยหุ้นชุดดังกล่าวไม่เกี่ยวกับหุ้นกู้ตัวอื่นๆ
ปัจจัยหลักที่ทำให้ขอเลื่อนชำระหุ้นกู้มาจากสถานการณ์ตลาดพันธบัตร (บอนด์) ไม่ค่อยดี ค่อนข้างอ่อนไหว ประกอบกับรัฐบาลไทยจัดตั้งช้า 3-4 เดือน โดยเพิ่งจัดตั้งได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เงินต่างชาติไหลออกจากไทยหมด ภาวะตลาดหุ้นไม่ดีนัก การลงทุนเฉพาะในไทยไม่มีวอลุ่มมากพอ ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องชั่วคราว ซึ่งหลังจากนี้จะไม่มีการลงทุนธุรกิจใดๆ เพิ่มเติมอีกแล้ว
ร่อนแถลงการณ์ ยอมรับแล้วถูก Force Sell หุ้น JKN
หลังจากที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขายหุ้นและรับโอนหุ้นหลายรายการจากสื่อหลายสำนัก แอน จักรพงษ์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า รายการขายหุ้นของตนนั้นมาจากบัญชีมาร์จิ้นถูก Force Sell หรือบังคับขาย เนื่องจากราคาหุ้นตกแรงกว่า 50% ใน 2 วัน
อย่างไรก็ตาม แอน จักรพงษ์ ได้รับโอนหุ้น JKN เข้ามาเพิ่ม 77 ล้านหุ้น ทำให้ปัจจุบันถือหุ้น JKN ทั้งหมดเพิ่มเป็น 392.28 ล้านหุ้น คิดเป็น 38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดอันดับ 1 เหมือนเดิม
“ยืนยันว่าดิฉันยังยืนหยัดบริหาร JKN และยังถือครองหุ้น JKN กว่า 38% ส่วนเรื่องหุ้นกู้นั้น บริษัท JKN มีแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องนี้แล้ว โดยได้ปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายและบริษัทผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ในวันที่ 27 กันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ จึงอยากขอให้ผู้ถือหุ้นกู้และนักลงทุนอย่าได้หลงเชื่อข่าวลือหรือ Fake News ต่างๆ
“ทั้งนี้ ขอให้เช็กข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. หรือติดต่อที่บริษัทเพื่อสอบถามได้ตลอดเวลา ดิฉันและผู้บริหารมีเจตนาที่จะดูแลเงินลงทุนและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างจริงใจ”
อ้างอิง: