นับเป็นการพลิกล็อกครั้งใหญ่ของวงการมวยโลกที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่่านมา หลังจากที่ แอนโทนี โจชัว แชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต 3 สถาบันทั้ง WBA, WBO และ IBF นักชกชาวอังกฤษที่สร้างสถิติชนะรวดมา 22 ไฟต์ รวมถึงมีอัตราต่อรองก่อนชกเป็นต่ออยู่ถึง 1-25 มาพ่ายทีเคโอให้กับ แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ ผู้ท้าชิงชาวอเมริกันสายเลือดเม็กซิกันในยกที่ 7
โดยไฟต์นี้โจชัวถูกรุยซ์ต่อยลงไปนับตั้งแต่ยกที่ 3 ก่อนที่รุยซ์จะเดินหน้าไล่ชกโจชัวอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายในยกที่ 7 รุยซ์ก็ออกหมัดสอยโจชัวร่วงอีก 2 ครั้ง จนกรรมการตัดสินใจโบกมือยุติการชก
“ผมถูกนักชกที่ดีกว่าเอาชนะ” โจชัว นักชกวัย 29 ปี ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน “มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากว่าเขาจะไปได้ไกลขนาดไหนต่อจากนี้ แต่สำหรับวันนี้มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผม
“เขาคือแชมป์ตอนนี้ แต่ผมจะกลับมา”
ขณะที่ รุยซ์ จูเนียร์ ในวัย 29 ปีเช่นกันกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต 3 สถาบัน พร้อมเพิ่มสถิติการชกเป็นชนะ 33 น็อก 22 แพ้ 1 ขณะที่โจชัวได้สัมผัสความพ่ายแพ้ครั้งแรกในอาชีพนักมวยหลังจากที่เก็บชัยชนะมา 22 ครั้งติดต่อกัน
“นี่เป็นความฝันของผมตลอดมา ผมไม่อยากเชื่อว่ามันจะกลายเป็นจริง แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมโดนชกจนร่วงลงไปกับพื้น แต่มันทำให้ผมอยากชนะมากขึ้นไปอีก ผมอยากน็อกเขาคืน” รุยซ์ให้สัมภาษณ์หลังสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนในวงการมวยโลก
นอกจากเรื่องของสถิติและอัตราต่อรองแล้ว ก่อนชกหลายฝ่ายยังไม่เชื่อมั่นในตัวของรุยส์เนื่องจากรูปร่างและน้ำหนัก ซึ่งรุยซ์ก็ได้ตอบกลับถึงผู้คนเหล่านั้นด้วยผลการชกในไฟต์นี้
หลังการชก เอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์การแข่งขัน ได้ประกาศจัดชกรีแมตช์ที่อังกฤษในช่วงปลายปีระหว่างเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม เพื่อให้โอกาสโจชัวได้แก้ตัวในกรุงลอนดอน
“เขาจะกลับมา ตอนนี้ขึ้นอยู่กับโอกาสรีแมตช์นี้ว่าถ้าเขาอยากจะกลับมาสู่จุดที่เขาเคยอยู่ เขาต้องชนะเท่านั้น”
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: