เราไม่มีวันรู้หรอกว่าชีวิตจะพาเราไปสู่จุดไหนได้บ้าง? วันนี้เราอาจจะอยู่ที่หนึ่ง แต่ในอีกวันหนึ่งชีวิตจะเหวี่ยงเราไปสู่จุดไหนบนโลกใบนี้ก็ได้

นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ผู้เล่นที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นระดับสตาร์พรีเมียร์ลีกที่มีดีกรีสูงถึงขั้นติดทีมชาติอังกฤษ ที่สร้างความตกตะลึงในโลกฟุตบอลด้วยการตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีม ‘ม้าเหล็ก’ พลังกาญจน์ ยูไนเต็ด สโมสรน้องใหม่ในไทยลีก 1 

“มันเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม” ทาวน์เซนด์บอกในระหว่างการเปิดตัวบนสะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี

แต่อะไรคือเหตุผลลึกๆ ที่ทำให้เขาเลือกย้ายทีมครั้งนี้ (จะใช่อ้อมตีนไก่หรือเปล่า?)

และการย้ายทีมครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อวงการฟุตบอลไทย?

ตัวตึงพรีเมียร์ลีก

ชื่อของแอนดรอส ทาวน์เซนด์ นั้นต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะนี่คือผู้เล่นในระดับสตาร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว

ถ้าไม่ดังจริง ไม่มีรายงานข่าวลงในสำนักข่าวใหญ่อย่าง BBC, Sky Sports หรือ Daily Mail หรอก!

ทาวน์เซนด์ มีชื่อเสียงโด่งดังจากการเป็นผลผลิตจากระบบอคาเดมี่ของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่กับทีมมาตั้งแต่ 8 ขวบ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นชั้นมาแจ้งเกิดเป็นสตาร์ของทีมได้สำเร็จ โดยเป็นผู้เล่นปีกซ้ายธรรมชาติที่ชอบประจำการทางฝั่งขวา

ในช่วงที่ดีที่สุดของชีวิตทาวน์เซนด์ ก้าวไปถึงขั้นการติดทีมชาติอังกฤษ โดยติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในปี 2013 ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่พบกับมอนเตเนโกร โดยสามารถคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ได้ด้วย เพราะทำประตูได้ตั้งแต่เกมประเดิมทันที และติดทีมชาติอังกฤษรวม 13 นัดด้วยกัน

ภาพจำของทาวน์เซนด์ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลคือการเป็นปีกความเร็วสูงที่มีทักษะการครองบอลยอดเยี่ยม อยู่ในระดับซ้ายผ่านตลาด เอ้ย ตลอดคนหนึ่ง และเล่นได้สารพัดตำแหน่งในแนวรุกเพราะเซนส์การเล่นสูง

ที่สำคัญคือมีท่าไม้ตายด้วยอย่างการลากตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยเท้าซ้ายที่หนักหน่วงแม่นยำ ฉบับน้องๆ ของอาร์เยน ร็อบเบน ผู้เป็น ‘มาสเตอร์’ ของผู้เล่นในสไตล์นี้

ซามูไรพเนจร

สิ่งที่น่าสนใจในประวัติการเล่นของทาวน์เซนด์คือการที่เขาเคยผ่านการเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลมาแล้วถึง 15 แห่ง

เพียงแต่ในจำนวนนี้เกินครึ่งเป็นเพราะในช่วงระยะเวลาที่อยู่กับสเปอร์ส ต้นสังกัดแห่งแรกที่เริ่มได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2009 เขาถูกส่งตัวให้สโมสรอื่นยืมใช้งานต่อเนื่องเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ถึง 9 ทีมด้วยกัน

เยโอวิล ทาวน์, เลย์ตัน โอเรียนต์, มิลตัน คีย์นส ดอนส์, อิปสวิช ทาวน์, วัตฟอร์ด, มิลวอลล์, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เบอร์มิงแฮม ซิตี, ควีนส์พาร์ก เรนเจอร์ส

และหลังจากที่ต้องย้ายออกจากสเปอร์ส เมื่อปี 2016 เพราะมีปัญหากับโค้ชฟิตเนส (แม้จะขอโทษในภายหลังแล้วก็ตาม) ทาวน์เซนด์ ยังได้เล่นในระดับพรีเมียร์ลีกอีกถึง 8 ปีด้วยกัน กับ 4 สโมสรได้แก่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, คริสตัล พาเลซ, เอฟเวอร์ตัน และ ลูตัน ทาวน์

โดยถ้ายังจำกันได้ปีกลอยลมผู้นี้เป็นหนึ่งใน 2 ผู้เล่นประสบการณ์สูงที่ถูกลูตันดึงตัวมาเสริมทัพ (อีกคนคือ รอสส์ บาร์คลีย์) เพื่อหวังใช้ประสบการณ์ช่วยประคับประคองทีมในลีกสูงสุด ซึ่งก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอยู่ไม่น้อย

น่าเสียดายที่ลูตัน ตกชั้นก่อน และทาวน์เซนด์ถูกขายออกไปให้กับอันตาลยาสปอร์ สโมสรในลีกตุรกีในฤดูกาลที่แล้ว โดยเซ็นสัญญาได้ 2 ปี แต่สุดท้ายก็อยู่ได้เพียงแค่ปีเดียว ก่อนจะสร้างความประหลาดใจด้วยการมาโผล่ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ภาพ: Kanchanaburi Power FC – พลังกาญจน์ เอฟซี

พลังกาญจน์ พลังใหม่ในชีวิต

“ความรู้สึกลึกๆ ของผม ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” ทาวน์เซนด์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในระหว่างการเปิดตัวสุดแปลกตา ไม่ต้องอาศัยโปรดักชัน ไม่จัดในห้องแถลงข่าว เปิดกันแบบแกรนด์ๆ บนสะพานข้ามแม่น้ำแควเลย

ปีกจรวดที่ตอนนี้อายุย่างเข้าปีที่ 34 เปิดเผยว่าความจริงแล้วเขาได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสรที่ชวนให้ย้ายไปร่วมเล่นด้วย เพราะด้วยอายุอานาม สภาพร่างกาย และประสบการณ์แล้วทาวน์เซนด์ยังถือเป็นผู้เล่น ‘ของดี’ ที่สโมสรไหนได้ไปก็น่าจะช่วยทีมได้ไม่มากก็น้อย

ดังนั้นสำหรับนักฟุตบอลที่อยู่ในอังกฤษมาตลอดชีวิต และเพิ่งจะได้ออกมาค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วในตุรกี ตัวเลือกที่ง่ายกับชีวิตมากกว่าคือการเลือกจะเล่นในยุโรปต่อไป

แต่เพราะพลังกาญจน์ให้ข้อเสนอที่ดีและโอกาสที่จะได้เริ่มต้นครั้งใหม่ในทวีปที่แตกต่าง และประเทศที่แปลกใหม่ 

“บ้านเมืองใหม่ วัฒนธรรมใหม่” คือหนึ่งในคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทาวน์เซนด์บอกกับผู้สื่อข่าว

โดยที่ยังมีความท้าทายด้วยในการทำให้น้องใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งสโมสรได้แค่ 8 ปีอย่างพลังกาญจน์ (เดิมสิงห์ระฆังทอง, ดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี) ยืนหยัดในพรีเมียร์ลีกให้ได้ ซึ่งทีม ‘ม้าเหล็ก’ ลงทุนมหาศาลสำหรับการสู้ศึกใหญ่ในลีกสูงสุดของไทย

นอกเหนือจากทาวน์เซนด์แล้วยังมี อบูบาการ์ กามารา อดีตศูนย์หน้าฟูแลม และเกอร์สัน โรดริเกวซ กองหน้าดีกรีทีมชาติลักเซมเบิร์กที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ฟิตปั๋งพลังตีนไก่

โดยที่ความลับที่ทาวน์เซนด์ไม่ได้บอกใครคือจริงๆ แล้วเขาอยากมากินตีนไก่ร้านดังในตัวเมืองกาญจนบุรี

ข้างบนน่ะหยอกนะ! อย่าไปคิดว่าเรื่องจริง

แต่สิ่งที่ไม่ได้หยอกคือในช่วงเวลาหนึ่งทาวน์เซนด์เคยออกมาเปิดเผยว่าหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้เขายืดระยะเวลาในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพโดยทำให้สภาพร่างกายยังแข็งแรงเสมอได้คือ ‘ตีนไก่’ (Chicken feet) ซึ่งครั้งหนึ่ง The Standard เคยนำเสนอเรื่องราวนี้มาแล้ว

ปรากฏว่าเมื่อทาวน์เซนด์เปิดเผยเคล็ดลับในการดูแลร่างกายจากการให้สัมภาษณ์กับรายการ 5 Live’s Monday Night Club ทาง BBC ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที

เพราะของดีที่เขากินก่อนนอนนั้นคือ ‘ตีนไก่’

อดีตสตาร์ที่มีดีกรีทีมชาติอังกฤษบอกแบบนี้ “ผมกินตีนไก่ทุกคืน น่าจะมี 5-6 ชิ้นต่อวัน”

ส่วนทำไมต้องเป็นตีนไก่นั้น ชวนกันเข้าไปอ่านได้ที่ ‘เมื่อ ‘ตีนไก่’ กลายเป็นอาหารเสริมของนักเตะพรีเมียร์ลีก!’

และเรื่องจริงอีกเรื่องก็คือในเมืองกาญจน์มีร้านตีนไก่เจ้าดังอยู่ ที่คิดว่าทาวน์เซนด์ก็คงไม่รู้หรอก แต่ตอนนี้อยากรู้เลยว่าถ้ารู้แล้วพี่เขาจะอยากไปลองชิมดูไหม?

จุดพลุฟุตบอลไทย

ความจริงการย้ายมาของนักฟุตบอลในระดับพรีเมียร์ลีกไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรนักสำหรับฟุตบอลไทย เพราะเราเคยเห็นตำนานทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล อย่าง ร็อบบี ฟาวเลอร์ มาสร้างสีสันกับเมืองทอง ยูไนเต็ด หรือแม้แต่ ฟลอรองต์ ซินามา ปงโกลล์ ที่เคยมาเล่นกับชัยนาท ยูไนเต็ด

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสข่าวการย้ายมาของทาวน์เซนด์ก็สร้างชีวิตชีวาให้กับฟุตบอลไทยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาฟุตบอลไทยซบเซาอย่างมาก สโมสรใหญ่หลายแห่งประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ขาดศักยภาพที่จะทำทีมแข่งกับยักษ์ใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

การที่พลังกาญจน์ได้นักเตะดีกรีดีอย่างทาวน์เซนด์มา นอกจากจะทำให้ทีมน่าติดตามชมและเชียร์ (โดยเฉพาะตอนนี้การเดินทางจากกรุงเทพฯไปเมืองกาญจน์สะดวกขึ้นมากด้วยทางด่วนมอเตอร์เวย์สายใหม่) ยังทำให้ฟุตบอลไทยดูน่าสนใจขึ้นด้วย

โดยที่สุดท้ายแล้วเอฟเฟกต์ในทางบวกเหล่านี้จะตีกลับมาเป็น ‘มูลค่า’ ที่เพิ่มขึ้นของฟุตบอลไทย ที่กำลังพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่หลังจากที่ปลดล็อกสำคัญในเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ได้ AIS เข้ามาสนับสนุนเป็นระยะเวลายาว (ซึ่งดีต่อทีมที่จะวางแผนระยะยาวได้)

ดังนั้นการย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็น ‘มูฟ’ ที่ดีสำหรับทั้งพลังกาญจน์ และวงการฟุตบอลไทย

ขอให้ปัง ขอให้เปรี้ยงเถอะ จะเลี้ยงซูเปอร์ตีนไก่ให้พี่ทาวน์เซนด์เขาสักชาม!

ภาพ: Kanchanaburi Power FC – พลังกาญจน์ เอฟซี