แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ประณามการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในเมียนมา โดยระบุว่า การประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 คน ในความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายนั้น ถือว่าเป็นกรณีแรกที่มีการประหารชีวิตพลเรือนตามที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980
เอร์วิน วาน เดอ บอร์ก ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า การประหารชีวิตถือเป็นการลิดรอนชีวิตตามอำเภอใจ และเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของรายงานด้านสิทธิมนุษยชนที่โหดร้ายของเมียนมา ชายสี่คนถูกศาลทหารตัดสินลงโทษจากการพิจารณาคดีอย่างลับๆ และไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ประชาคมระหว่างประเทศต้องดำเนินการทันที เนื่องจากเชื่อว่ามีผู้ต้องโทษประหารชีวิตมากกว่า 100 คน หลังจากถูกตัดสินโทษในการดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน
“เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่กองทัพเมียนมาได้กระทำการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม การทรมาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกด้าน กองทัพจะเหยียบย่ำชีวิตของผู้คนต่อไปหากพวกเขาไม่ต้องรับผิดชอบ
“ในช่วงเวลาที่ประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังดำเนินการยกเลิกโทษประหารชีวิต การนำการประหารชีวิตกลับมาใช้อีกครั้งหลังจากผ่านไปกว่าสามทศวรรษไม่เพียงแต่ขัดแย้งกับแนวโน้มทั่วโลก แต่ยังขัดต่อเป้าหมายของการยกเลิกโทษประหารชีวิตที่อยู่ภายใต้กฎหมาย และมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ การโดดเดี่ยวตนเองของเมียนมาปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด เราขอเรียกร้องให้กองทัพระงับการประหารชีวิตโดยทันทีเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรก”
ภาพ: Matteo Nardone / Pacific Press / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
- แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล