วัยรุ่นสูบบุหรี่ไฟฟ้าน้อยลง แต่หันไปนิยมใช้นิโคตินแบบซองแทน หนุนให้แบรนด์ ZYN ภายใต้บริษัท Philip Morris ขายดีจนสินค้าขาดตลาด พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างโรงงานใหม่รับดีมานด์พุ่ง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) ประกาศว่า จากการสำรวจ นักเรียน 29,861 คน จากทั้งหมด 283 โรงเรียน พบว่า อัตราการใช้บุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กมัธยมต้นและมัธยมปลายลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี โดยในปี 2024 จำนวนคนที่ใช้บุหรี่ลดลงเหลือ 1.63 ล้านคน จาก 2.13 ล้านคนในปี 2023
ทั้งนี้คนกลุ่มนี้หันไปใช้สารนิโคตินแบบซอง (Nicotine Pouches) ทดแทน หลายคนคงสงสัยว่านิโคตินแบบซองคืออะไร จริงๆ แล้วเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากการสังเคราะห์กับสารให้สีกลิ่นรส ทำออกมาในรูปซองเล็กๆ พกเหน็บไว้ระหว่างริมฝีปาก สารละลายนิโคตินจะค่อยๆ ซึมออกมา ไม่มีควัน ไม่เผาไหม้เหมือนบุหรี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สิ่งที่น่าสนใจคือแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและอานิสงส์โดยตรงคือ ZYN ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท Philip Morris International สามารถชิงส่วนแบ่งในตลาดบุหรี่มาได้ 68.7% สินค้าขายดีจนขาดตลาด เติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งอันดับ 2 อย่าง on! ที่มีส่วนแบ่งในตลาดแค่เพียง 14.2% เท่านั้น
จากโอกาสดังกล่าวทำให้เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Philip Morris ประกาศแผนการลงทุน 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานผลิต ZYN แห่งใหม่ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2025 เพื่อรองรับความต้องการในตลาดที่โตอย่างรวดเร็ว และถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพิ่มทางเลือกแทนบุหรี่แบบดั้งเดิม
“แม้ปริมาณการใช้บุหรี่ของวัยรุ่นจะลดลง แต่การเปลี่ยนไปใช้สารนิโคตินรูปแบบอื่นแทนก็ยังน่าเป็นห่วง ดังนั้นต้องระมัดระวังและเดินหน้าหาวิธีลดการใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ทุกประเภท โดยสิ่งที่ภาครัฐพยายามทำมาตลอด คือรณรงค์ให้เยาวชนเห็นโทษของการสูบบุหรี่ผ่านสื่อต่างๆ ควบคู่กับการปรับขึ้นราคา ซึ่งมีส่วนทำให้การใช้บุหรี่ลดลง” Brian King ผู้อำนวยการศูนย์แห่ง FDA กล่าว
อ้างอิง: