×

อีก 50 ปีข้างหน้า ทุนนิยมอเมริกันจะเป็นอย่างไร? 7 นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำมองต่างมุม ตั้งแต่ยุค AI เหลื่อมล้ำสุดขั้ว ถึงรัฐที่เล็กลง

30.09.2025
  • LOADING...
อนาคตทุนนิยมอเมริกัน

การทำนายอนาคตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอนาคตทางเศรษฐกิจ หากย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน คงมีน้อยคนที่จะคาดการณ์ถึงการมาถึงของอินเทอร์เน็ต, วิกฤตการเงินปี 2008 หรือการกลับมาของสงครามภาษีได้ แต่ถึงกระนั้น The Wall Street Journal ก็ได้เชิญนักเศรษฐศาสตร์และนักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจชั้นนำ 7 คน มาฉายภาพว่าระบบทุนนิยมอเมริกันในอีก 50 ปีข้างหน้าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

 

เราจะเลือกเส้นทางไหนให้กับ AI?

ดารอน อะเซโมกลู ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT และเจ้าของรางวัลโนเบลปี 2024 มองว่า อเมริกากำลังอยู่บน ‘ทางแยก’ ครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เขามองเห็นอนาคตที่เป็นไปได้สองเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

เส้นทางแรกซึ่งเป็นเส้นทางที่กำลังมุ่งหน้าไป คืออนาคตที่เศรษฐกิจถูกครอบงำโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง AI จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในหลากหลายสาขา แต่จะเป็นเพียง ‘ระบบอัตโนมัติที่ไม่ได้ฉลาดนัก’ (So-so Automation) ซึ่งจะทำให้เกิดการเลิกจ้างงานจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้เพิ่มผลิตภาพของเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก

 

ภาพอนาคตดังกล่าวจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำมหาศาล ระหว่างกลุ่มคนทักษะสูงจำนวนน้อยนิดกับแรงงานส่วนใหญ่ที่ถูกแทนที่ และระหว่างเจ้าพ่อเทคโนโลยีผู้ควบคุม AI กับคนอื่นๆ ในสังคม 

 

อะเซโมกลูยังได้กล่าวถึงอีกหนึ่งภาพอนาคตที่เป็นไปได้ นั่นคือการเกิด ‘ระบบทุนนิยมโดยรัฐที่ขับเคลื่อนด้วย AI’ (AI-state capitalism) ซึ่งเกิดขึ้นจากความกลัวในพลังของ AI จนทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมเทคโนโลยีและเก็บข้อมูลประชาชนในระดับมหภาค

 

อะเซโมกลูเตือนว่าจำเป็นต้องมี ‘เสียงเตือนให้ตื่น’ (Wake-up call) เพื่อเลือกเส้นทางที่สอง ซึ่งเป็นทิศทางที่สนับสนุนแรงงาน ในเส้นทางนี้ AI จะถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเสริมศักยภาพของมนุษย์ ทำให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภาพอย่างแท้จริงและลดความเหลื่อมล้ำลง

 

การเสื่อมถอยของรัฐราชการ

เจนนิเฟอร์ เบินส์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จาก Stanford University ทำนายว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและทุนนิยมจะเปลี่ยนไป วิกฤตการณ์ทางการคลังที่ใกล้เข้ามาซึ่งเกิดจากการขาดดุลงบประมาณมหาศาล จะบีบให้ ‘รัฐราชการที่เน้นการกำกับดูแล’ (Regulatory administrative state) ต้องเสื่อมถอยลง

 

เธอยังชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ต่างก็กำลังพยายามรื้อถอนโครงสร้างกฎหมายเดิมที่ออกแบบมาเพื่อไกล่เกลี่ยระหว่างทุนและแรงงานในยุคอุตสาหกรรม ซึ่งเห็นได้จากนโยบาย DOGE (Department of Government Efficiency) ในพรรครีพับลิกัน และกระแส abundance movement ในพรรคเดโมแครต

 

รัฐอเมริกันในศตวรรษที่ 21 จะมีขนาดเล็กลงและจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีและความคิดแบบ Silicon Valley เข้ามาปรับใช้ ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านของระเบียบโลกจากขั้วเดียวไปสู่หลายขั้วอำนาจจะกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยสหรัฐฯ จะต้องรักษาสิทธิพิเศษของเงินดอลลาร์ด้วยความโปร่งใสและหลักนิติธรรมที่แน่วแน่

 

นอกจากนี้ เบินส์ยังคาดการณ์ว่าแรงกดดันจากระเบียบโลกใหม่จะทำให้เกิดการลงทุนจากภาครัฐในภาคส่วนที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติมากขึ้น และอาจได้เห็นการกลับมาของแนวคิด ‘การกระจายตัว’ (Dispersal) เหมือนในยุคสงครามเย็น แต่ครั้งนี้จะเป็นการกระจายศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจออกจากพื้นที่ชายฝั่ง เพื่อตอบสนองทั้งความต้องการทางการเมืองในประเทศและข้อกังวลด้านความมั่นคง

 

ปฏิรูปทุนนิยมอเมริกันเสียแต่วันนี้

โอเรน แคส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก American Compass กลับมองว่าการอยู่รอดของระบบทุนนิยมขึ้นอยู่กับการที่รัฐต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เขาเชื่อว่าระบบทุนนิยมในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้เสื่อมถอยลง เพราะกิจกรรมที่ทำกำไรได้สูงสุดกลับไม่ใช่กิจกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมมากที่สุด

 

เขาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปโดยใช้นโยบายที่เข้มข้นขึ้น เช่น กำแพงภาษี, การควบคุมเงินทุน และนโยบายอุตสาหกรรม เพื่อชี้นำให้เงินทุนไหลไปสู่ภาคการผลิตที่แท้จริงแทนที่จะเป็นการเก็งกำไรทางการเงินหรือการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง ‘งานที่เลี้ยงดูครอบครัวได้’ และชุมชนที่เข้มแข็ง

 

โมเดลใหม่ของความร่วมมือรัฐ-เอกชน

คาโรลา ฟรีดแมน ศาสตราจารย์ด้านการเงินจาก Kellogg School of Management มองเห็นอนาคตที่การแข่งขันแบบเสรีจะถูกแทนที่ด้วยการกำกับดูแลเชิงกลยุทธ์มากขึ้น โดยอาจเกิดเป็น ‘ระบบทุนนิยมโดยรัฐในแบบฉบับของอเมริกา’ (State capitalism with distinct American design) ซึ่งรัฐไม่ได้เข้ามาเป็นเจ้าของกิจการ แต่จะทำงานร่วมกับเอกชนอย่างใกล้ชิด

 

ความร่วมมือในรูปแบบ Public-Private Partnership จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติและความเป็นผู้นำของโลก เช่น เซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด และการป้องกันประเทศ ซึ่งรัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนทรัพยากรที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทักษะแรงงานและโครงสร้างพื้นฐาน

 

ตาข่ายความปลอดภัยทางสังคมที่แข็งแกร่งขึ้น

อาร์. เกล็น ฮับบาร์ด อดีตประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช เชื่อว่าระบบทุนนิยมจะยังคงอยู่รอดได้ด้วยการปรับตัว โดยเฉพาะการสร้าง ‘ตาข่ายความปลอดภัย’ (Safety net) ทางสังคมรูปแบบใหม่ขึ้นมาเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่จาก AI

 

ระบบดังกล่าวจะมุ่งเน้นการสนับสนุนในระยะยาว เช่น การประกันค่าจ้างสำหรับแรงงานสูงวัย, การสนับสนุนการฝึกอบรม และการให้เงินช่วยเหลือแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนัก นอกจากนี้ เขายังทำนายว่าจะมีการเปลี่ยนระบบภาษีจากฐานรายได้ไปเป็นฐานการบริโภค (Consumption Tax) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการออมและการลงทุนมากขึ้น

 

6 คำทำนายแห่งอนาคต

เอ็น. เกรเกอรี แมนคิว (N. Gregory Mankiw) ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก Harvard University ได้ให้คำทำนายที่ชัดเจน 6 ข้อสำหรับ ‘อนาคต’ ในอีก 50 ปีข้างหน้า ได้แก่ 

 

  • รายได้เฉลี่ยของคนอเมริกันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า 
  • ความเหลื่อมล้ำจะยังคงอยู่ 
  • ภาษีจะสูงขึ้นเพื่อรองรับสวัสดิการสังคมที่เพิ่มขึ้น และจะมีการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • สัปดาห์การทำงานจะสั้นลง 
  • ตำแหน่งงานในภาคการผลิตจะหายไปเกือบหมด โดยมีหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทน แต่ผลผลิตโดยรวมจะยังคงแข็งแกร่ง 
  • รัฐบาลจะลดการแทรกแซงตลาดในรูปแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น นโยบายอุตสาหกรรมหรือกำแพงภาษีลง

 

ทุนนิยมจะยังคงปรับตัวต่อไป

โจเอล โมคีร์ศาสตราจราย์ด้านเศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์จาก Northwestern University มองว่าจุดแข็งที่สุดของระบบทุนนิยมคือความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้เสมอ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่อย่างการสิ้นสุดของการเติบโตของประชากรและภาวะโลกร้อน แต่ระบบทุนนิยมก็จะสามารถหาทางออกได้ผ่านนวัตกรรม

 

เขาเชื่อว่า ‘นวัตกรรม’ จะช่วยสร้างหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ, พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงที่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยกลไกของตลาดเสรีที่ขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการ, เงินทุน และแรงงานทักษะสูง

 

ภาพ: Sophia Cole / Shutterstock

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising