Amazon บรรลุข้อตกลงคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 20 นัดต่อฤดูกาลเป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2018/2019 เป็นต้นไป นับเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงวิดีโอออนดีมานด์ ‘Amazon Prime’ ในสหราชอาณาจักรแบบครบทุกคู่ 10 แมตช์ต่อสัปดาห์
อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาได้ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงถ่ายทอดสดศึกการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จำนวน 20 นัดบนบริการสตรีมมิงวิดีโอ ‘Amazon Prime’ เฉพาะในสหราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2019/2020 เป็นต้นไป รวมระยะเวลาของสัญญา 3 ปี (รวมไฮไลต์การแข่งขันในทุกๆ สัปดาห์ด้วย) โดยที่สมาชิกจะไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม
ความพิเศษชองสัญญาครั้งนี้คือ Amazon จะไม่ได้ถ่ายทอดสดเฉลี่ยทุกสัปดาห์ไปจนจบฤดูกาล แต่จะเลือกถ่าย 2 ช่วง ช่วงละ 10 แมตช์เต็ม แบ่งเป็นแมตช์การแข่งขันนัดกลางสัปดาห์แรกในเดือนธันวาคมและช่วงวันหยุดธนาคารในสหราชอาณาจักร (ช่วงบ็อกซิ่งเดย์) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จะมีการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกครบทุกคู่ในสหราชอาณาจักร
ด้าน เจย์ มารีน รองประธานบริหาร Amazon Prime ในยุโรปกล่าวว่า “พวกเราพยายามจะเพิ่มมูลค่าให้กับ Prime และรู้สึกยินดีมากที่ตอนนี้เราสามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกให้สมาชิกของเราดูได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกเพิ่มเติม
“ศึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกเป็นเวทีที่มีคนดูมากที่สุดในโลก และในช่วงเดือนธันวาคม สมาชิกของ Prime ก็จะได้ดูเกมการแข่งขันทั้ง 20 แมตช์ของทุกทีม ทุกเกม ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมไหน เราก็จะการันตีว่าคุณจะได้ชมเกมการแข่งขันแบบสดๆ บน Prime แน่นอน”
สำหรับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลายเป็นอีกหนึ่งในรายการแข่งขันกีฬาที่ถูกบรรจุลงในแพลตฟอร์มสตรีมมิงวิดีโอออนดีมานด์ Amazon Prime ของ Amazon ร่วมกับ US Open Tennis, ATP World Tour Tennis และ NFL
แม้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าสัญญาอย่างเป็นทางการออกมา แต่เชื่อกันว่า Amazon น่าจะใช้งบประมาณในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 134 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.27 พันล้านบาท เพื่อปิดดีลถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกจำนวน 20 นัดเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งสูงกว่ามูลค่าที่พวกเขาต้องจ่ายให้ NFL ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันแค่ 10 แมตช์ด้วยซ้ำ
นอกจาก Amazon Prime ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นผู้ให้บริการคอนเทนต์หลายรายหันมาจับตลาดคอนเทนต์กีฬามากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลังๆ อย่างที่ประเทศไทย LINE TV ก็เริ่มนำร่องถ่ายทอดสดแมตช์การแข่งขันกระชับมิตรอุ่นเครื่องของทีมชาติเบลเยียมแล้ว และยังร่วมมือกับ beIN Sports (ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในไทย) นำไฮไลต์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกมารีรันตลอดฤดูกาลอีกด้วย
อ้างอิง: