จากความวุ่นวายทางการเมืองในเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนึ่งในบริษัทของไทยที่ไปลงทุนในเมียนมาคือ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA)
วิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่การตลาด AMATA เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เริ่มพัฒนาที่ดินในเฟสแรกประมาณ 500 ไร่ โดยใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 140 ล้านบาท
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการลงทุนดังกล่าว โดยหลักคือการชะลอการลงทุนไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์โดยภาพรวมจะดีขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้บริษัทคาดการณ์ว่านักลงทุนที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนในเมียนมาน่าจะชะลอแผนเช่นกัน รวมถึงนักลงทุนบางส่วน โดยเฉพาะจากประเทศในฝั่งตะวันตกอาจไม่สนใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการเมืองในลักษณะนี้
“ถ้าเป็นความรู้สึก ส่วนตัวคิดว่าเขาไม่น่าจะมาหยุดโครงการของเรา เพราะโครงการนี้ช่วยสร้างความเจริญให้ประเทศ แต่ในแง่คนลงทุน เขาไม่ให้คะแนน กลายเป็นว่าถูกบอยคอตไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราวิตกกังวลมากกว่า”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคตยังไม่มีใครตอบได้ คงจะต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องแบบวันต่อวันหรือในแต่ละสัปดาห์
สำหรับประเด็นของการบอยคอตจากประเทศทางฝั่งตะวันตก อาจจะเห็นใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. นโยบายทางการค้าที่อาจจะถูกตัดสิทธิ์บางประการ หรือปรับลดบางส่วน 2. บริษัทที่จะเข้ามาลงทุนน่าจะลดลง เพราะประเทศฝั่งตะวันตกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และ 3. การให้วงเงินกู้ก็น่าจะหดหายไปบางส่วน
“เดิมทีบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวในปีนี้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น แผนดังกล่าวก็น่าจะเลื่อนออกไป เดิมทีคาดว่าจะขายที่ดินได้ราว 100-300 ไร่ จากการพูดคุยกับลูกค้าราว 20 ราย ณ ตอนนี้ก็คงต้องชะลอการพัฒนาไว้ก่อน”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า