วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค แถลงต่อสื่อมวลชนจากกรณีที่ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 รวมถึงใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่ออมรัตน์ จากกรณีที่กล่าวหาประพฤติตัวไม่เหมาะสม จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และใช้ถ้อยคำล้อเลียนสถาบันฯ ในเฟซบุ๊กแฟนเพจและเฟซบุ๊กส่วนตัว
วิโรจน์กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการกลั่นแกล้งในการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในการปิดปาก ส.ส.ฝ่ายค้าน ซึ่งอันที่จริงแล้วสิ่งที่ ส.ส.อมรัตน์ปฏิบัติ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามญัตติที่เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและตามรัฐธรรมนูญ โดยเบื้องต้นฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลได้ตรวจสอบ มีความเห็นว่าเป็นการตีความโดยใช้อคติของสุภรณ์ผู้ไปร้อง ซึ่งหลังจากนี้ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับคำร้องหรือไม่ และทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่อมรัตน์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก (16 กุมภาพันธ์) ต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใน 3 ข้อหา ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามปกติในฐานะสมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการอภิปรายเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายรัฐบาล ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจากข้อหาที่สุภรณ์กล่าวอ้างว่าตนหมิ่นประมาทต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และไปดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และกล่าวอ้างอีกข้อหาว่าตนโพสต์ด้วยการใช้ถ้อยคำที่ล้อเลียนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ และเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยอมรัตน์มั่นใจว่าตนไม่มีเคยมีการโพสต์ล้อเลียนตามที่สุภรณ์กล่าวหา โดยตนได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
“กรณีนี้เป็นการกระทำที่ใช้อคติของสุภรณ์ อย่ามากลั่นแกล้งรังแกกันในการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการปิดปาก ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และประชาชนผู้เห็นต่าง และหลังจากนี้จะรอตรวจสอบหนังสือคำร้องของสุภรณ์จากทางปอท. อีกครั้ง เพื่อความแน่ชัด และให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินทางคดีอย่างถึงที่สุด” อมรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ วิโรจน์กล่าวทิ้งท้ายว่า ทีมกฎหมายพรรคก้าวไกลจะดำเนินคดีต่อ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทตามมาตรา 177 และฝากถึงเจ้าหน้าตำรวจที่รับคำร้อง หากตรวจสอบแล้วว่าไม่เข้าข่ายว่าผิดตามที่สุภรณ์ร้องทุกข์ และหากเจ้าหน้าที่ยังดำเนินคดีต่ออมรัตน์ ทางฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกลพร้อมดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามมาตรา 157 และ 200 ในข้อหาจงใจใช้คดีอาญาเพื่อกลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ โดยจะฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล