ภาพของนักเตะที่ระเบิดความเร็วฉีกแนวรับของเชลซีออกเป็นริ้วๆ ก่อนจะเปิดบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงหมายเลขหนึ่งของทีมบาเยิร์น มิวนิก จบสกอร์เข้าไปอย่างง่ายดาย ทำให้แฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยทึ่งและอยากรู้จักนักเตะรายนี้ว่าคือใครมาจากไหน
และถ้าจะให้เล่าจริงๆ เรื่องราวของเขา อัลฟอนโซ เดวีส์ แบ็กซ้ายไฮสปีดที่เร็วและแรงที่สุดในโลก ก็มหัศจรรย์ไม่แพ้ฝีเท้าของเขาที่แสดงให้เราเห็นเช่นกัน
เดวีส์ปัจจุบันอายุ 19 ปี เป็นนักเตะที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวแคนาดา นอกจากนี้ยังเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีพรสวรรค์สูงสุดที่แจ้งเกิดในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์สหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และปัจจุบันกำลังก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในวงการฟุตบอลเยอรมันกับทีมบาเยิร์น มิวนิก
แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ ของอัลฟอนโซ ไม่ใช่ที่แคนาดา เขาเดินทางมาไกลกว่านั้นมากมายนัก
เสียงนกหวีดแรกที่เริ่มต้นชีวิตของยอดนักเตะดาวรุ่งผู้นี้อยู่ที่บูดูบูราม แคมป์ผู้ลี้ภัยของกานา สถานที่เกิดของเขา หลังพ่อและแม่ลี้ภัยจากสงครามกลางเมืองในไลบีเรีย
ชีวิตของผู้ลี้ภัยไม่เคยมีคำว่าสะดวกสบาย นอกเหนือจากความปลอดภัยที่ไม่เคยมีอยู่จริงแล้ว ความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นไปอย่างข้นแค้น สิ่งที่มีค่ามากที่สุดไม่ใช่เรื่องข้าวของเงินทอง แต่เป็นน้ำสะอาดและอาหาร และทุกชั่วโมงที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างอะไรจากการได้รับชัยชนะในเกมการแข่งขันแล้ว
“มันเป็นเรื่องยากมากที่จะรักษาชีวิตอยู่ เพราะทางเดียวที่คุณจะรอดได้ในบางครั้งคือการที่คุณต้องถือปืนเอาไว้” เดเบียห์ พ่อของเจ้าหนูอัลฟอนโซเล่าให้ฟัง “เราไม่ได้คิดอยากจะมีปืนนัก ดังนั้น เราจึงตัดสินใจที่จะหนีออกจากที่นั่น พวกเขามีโครงการการตั้งถิ่นฐานใหม่ เราเลยกรอกแบบฟอร์มและผ่านการสัมภาษณ์ และท้ายที่สุดเราก็ได้มาอยู่ที่นี่”
เจ้าหนูอัลฟอนโซจึงย้ายถิ่นฐานเป็นครั้งแรกในช่วงอายุ 5 ขวบ จากแคมป์ผู้ลี้ภัยที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายมาสู่เมืองเอ็ดมอนตัน ในเมืองอัลเบอร์ตา
ความเป็นอยู่อาจจะไม่สุขสบายนัก เจ้าหนูน้อยเองก็ต้องช่วยพ่อและแม่ดูแลน้องๆ ฝาแฝดเล็กๆ อีก 2 คน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พรสวรรค์ของการเป็นสุดยอดนักกีฬาของเขาก็เริ่มเปล่งประกาย
“เขาเป็นหนึ่งในเด็กที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา ชอบเต้นในหอประชุม เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ เก่งทุกอย่างที่เขาเล่น ไม่ว่าจะเป็นกรีฑา บาสเกตบอล หรืออะไรก็ตาม” ครูพละของเขา เมลิสซา กุซโซ เล่าให้ฟังถึงความทรงจำที่มีต่อ อัลฟอนโซ เดวีส์
โชคดีที่สายตาของครูไม่พลาด เมลิสซามองเห็นแววว่า เด็กคนนี้น่าจะเอาดีในการเล่นฟุตบอลได้ และได้พาไปแนะนำกับ ทิม อดัมส์ ที่จัดการแข่งขันฟุตบอลสำหรับเด็กๆ ที่ยากไร้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร นอกจากนี้ยังมีชุดแข่งและอุปกรณ์ให้ด้วย
อดัมส์เป็นอีกคนที่รู้ได้ทันทีว่า เด็กคนนี้พิเศษ “ผมเห็นการจับบอลครั้งแรกของเขา ผมรู้ได้ทันทีว่า เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่จะเป็นนักฟุตบอล”
ความพิเศษของอัลฟอนโซที่ทำให้เขาแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ซึ่งมีความเป็นนักกีฬา ร่างกายที่แข็งแกร่งกำยำคือ การที่เขามีหัวใจของนักฟุตบอล เป็นคนที่รู้ว่า ควรจะทำอะไร เล่นอย่างไรกับฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ใช่จะสอนกันได้ทุกคน และสำหรับบางคน เขาเกิดมาพร้อมกับมันเลย
เพื่อกรุยทางต่อให้เจ้าหนู อดัมส์ติดต่อโค้ชทีมฟุตบอลท้องถิ่น มาร์โก บอสซิโอ เพื่อให้มาดูการแข่งขัน และโค้ชของเซนต์ นิโคลัส ซอกเกอร์ อคาเดมี ไม่ผิดหวังกับสิ่งที่ได้เห็น อัลฟอนโซถูกดึงตัวเข้าอคาเดมีทันที และที่นั่นเขาได้พบกับ เชอร์โนห์ ฟาห์นบุลเลห์ อีกหนึ่งผู้อพยพจากไลบีเรีย ที่ต่อมากลายเป็นเพื่อนรักกัน
ช่วงเวลานั้นเองที่เขาเริ่มคิดถึงการเล่นฟุตบอลในอีกแบบ
จากการเล่นเพื่อความสนุก เล่นเพื่อตัวเอง เล่นกับเพื่อน เสียงเชียร์ของทุกคนที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขานำไปสู่ความคิดที่จะเล่นฟุตบอลเพื่อเป็นอาชีพ เพื่อที่จะได้ดูแลครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม
ถึงจะมีพรสวรรค์ แต่ความพยายามของเขามีมากกว่า อัลฟอนโซพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนาตัวเอง จนสุดท้ายในวัย 14 ปี เขาถูกทีมแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ สโมสรในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) สหรัฐฯ ดึงตัวมาสู่โปรแกรมการพัฒนาเพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ในวัย 15 ปี 8 เดือน กับอีก 15 วัน เขาได้โอกาสลงเล่นระดับอาชีพเป็นครั้งแรก และเป็นนักฟุตบอลที่เกิดหลังยุคมิลเลนเนียลคนแรกที่ได้ลงสนามใน MLS
พัฒนาการและความโดดเด่นของอัลฟอนโซ ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่หนึ่งของยุคสมัย’ เขาได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติแคนาดา จากทีมชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี สู่ชุดอายุต่ำกว่า 20 ปี และได้เล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ในเกมที่พบกับกือราเซาเมื่อ 14 มิถุนายน 2017
หนึ่งสัปดาห์หลังการลงเล่นให้ทีมชาติแคนาดา เขาได้รับสัญชาติแคนาดา
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัว ผมดีใจที่ผมทำได้ มันมีความหมายอย่างมาก กับการได้ลงเล่นในนามทีมชาติที่ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่มาเกือบทั้งชีวิต”
ขณะที่แคนาดาเองก็ยินดีที่ได้เขาเป็นนักเตะทีมชาติ จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชในขณะนั้นถึงกับเคยให้สัมภาษณ์ว่า เด็กคนนี้คือคนที่คนทั้งชาติสมควรจะใช้เป็นแรงบันดาลใจ
แต่ถึงจะเป็นเด็กมหัศจรรย์ของอเมริกาเหนือ อัลฟอนโซไม่คิดจะหยุดตัวเองแค่ตรงนี้ และสิ่งที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อบาเยิร์น มิวนิก สโมสรระดับท็อปของยุโรปยื่นข้อเสนอมาให้เขา เด็กอายุไม่ถึง 20 ปีคนหนึ่ง ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเล่นลีกฟุตบอลยุโรปเลย ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2019
การที่ทีมอย่างบาเยิร์นรีบติดต่อมาพร้อมยอมทุ่มเงินถึง 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะจ่ายเงินเพิ่มตามเงื่อนไขจนสูงสุดที่ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของ MLS ในเวลานั้น (ก่อนที่จะถูกสถิติการย้ายทีมของ มิเกล อัลไมรอน จากแอตแลนตา ยูไนเต็ดไปนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดแซงหน้า) เป็นการยืนยันว่า เขามี ‘ศักยภาพ’ ที่จะเป็นสุดยอดนักเตะของโลก
27 วัน หลังการเริ่มต้นใหม่กับบาเยิร์น อัลฟอนโซได้ลงสนามเกมแรกในนัดที่พบกับสตุตการ์ต จากนั้นในวันที่ 17 มีนาคม เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้บาเยิร์นได้ในเกมที่ถล่มไมนซ์ 05 ถึง 6-0 ด้วยวัยเพียง 18 ปี 4 เดือน กับอีก 15 วัน ทำลายสถิติของ โรเก ซานตา ครูซ ที่ยืนยงมากว่า 20 ปี
แน่นอนว่า เขาเป็นนักฟุตบอลแคนาเดียนคนแรกที่ยิงประตูให้บาเยิร์นได้ด้วย
แต่เพิ่งจะมาในฤดูกาลนี้ที่เขาได้เริ่มลงสนามในทีมชุดใหญ่ต่อเนื่อง โดยได้เป็นตัวจริงครั้งแรกในนัดที่ 9 ของฤดูกาล 2019/20 ในเกมที่พบกับยูเนียน เบอร์ลิน ต่อด้วยการได้เล่นตัวจริงในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่พบโอลิมเปียกอส
ด้วยความเร็วทำให้ปกติแล้วเขาจะเล่นในตำแหน่งปีกหรือวิงแบ็ก แต่ในฤดูกาลนี้ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิก เลือกจะขยับเขามาใช้งานในตำแหน่งแบ็กซ้าย โดยโยก ดาวิด อลาบา เจ้าของตำแหน่งเดิม ขยับเข้ามายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
เซนส์ในการผ่านบอลของอลาบา ทำให้บาเยิร์นสามารถเซตเกมจากแดนหลัง และมีความมั่นคงมากขึ้น เพราะดาวเตะสวิตเซอร์แลนด์แข็งแกร่งและมีความเร็ว
ขณะที่ความเร็วและความแรงเหมือนจรวดของ อัลฟอนโซ เดวีส์ ทำให้เกมริมเส้นฝั่งซ้ายของทีมดุดันเร้าใจอย่างยิ่ง เหมือนที่เราได้เห็นกันสองตาในเกมกับเชลซี ที่ทำให้เห็นภาพซ้อนของ แกเร็ธ เบล ในวันแจ้งเกิดกับอินเตอร์ มิลานเมื่อหลายปีก่อน
ด้วยประสบการณ์แล้ว การเล่นของเขาอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก แต่ด้วยพรสวรรค์ในการเล่น และความสามารถทางร่างกายที่เข้าขั้นมหัศจรรย์ รวมถึงจิตใจของนักสู้ที่พร้อมจะทุ่มเททำทุกอย่าง
และหัวใจของคนที่เคยได้รับและพร้อมจะเป็นผู้ให้
อัลฟอนโซ เดวีส์ คือหนึ่งในนักเตะรุ่นใหม่ที่จะเป็นที่รักของใครต่อใครอีกมากมาย และสมควรจะจดจำชื่อเขาไว้ให้ดี
- หลังจบเกมกับเชลซี เขาให้สัมภาษณ์ในเรื่องขำๆ เกี่ยวกับการถูกเรียกตัวติดทีมกรีฑาของแคนาดาว่า “ถ้าพวกเขาติดต่อมา ผมก็พร้อมจะไปนะ”
- หนึ่งในเคล็ดลับความเร็วเหนือแสงของเขาคือ การที่เขาเคยเป็นนักกรีฑารุ่นเยาว์มาก่อน จึงรู้เทคนิคการวิ่งเป็นอย่างดี และเคยทำสถิติในตอนเด็กๆ ด้วยการวิ่ง 100 เมตร ภายใน 11 วินาที
- ครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบได้ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่การทดสอบฝีเท้าของเขาเมื่อปี 2018 ถูกยกเลิกไปเสียก่อน เนื่องจากอัลฟอนโซถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติแคนาดา และทีม ‘ปีศาจแดง’ ไม่สามารถจัดหาเวลาในการทดสอบฝีเท้าใหม่ได้