ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงในโลกความงามเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าตื่นเต้น หากสังเกตให้ดีๆ จะพบว่าเทรนด์ความงามที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ นั้นนับวันจะยิ่งก้าวล้ำไปไกล และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านความงามที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของผู้คนได้อย่างหลากหลายมากขึ้น ทำให้ Allergan Aesthetics บริษัทผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านเวชศาสตร์ความงามจากสหรัฐอเมริกา ชวนผู้อ่านมาสำรวจเทรนด์ความงามที่น่าจับตาตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในแวดวงความงามที่จะกำหนดทิศทางธุรกิจความงามของโลก จากรายงาน The Future of Aesthetics ที่คาดการณ์ถึง 10 เทรนด์นิยามความงามแห่งอนาคต ที่ถูกรวบรวมข้อมูลจากผู้นำในธุรกิจความงามใน 13 ตลาดหลักทั่วโลก และได้รับการยืนยันข้อมูลจากการสำรวจทางสื่อออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม
รายงานชิ้นนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกในงานประชุมเชิงวิชาการด้านความงามของโลก ครั้งที่ 20 (20th Aesthetics AMWC) ที่จะเป็นมิติใหม่สำหรับผู้ให้บริการด้านความงาม ได้เข้าใจความต้องการเชิงลึกและความคาดหวังของผู้บริโภคได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผู้อ่านที่รักสวยรักงามสามารถเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในตลาดความงามที่จะเกิดขึ้นอย่างมีความรู้ อันจะปลุกพลังแห่งความมั่นใจในแบบฉบับของความงามที่ทุกคนมีสิทธิ์สวยดูดีได้โดยไม่จำกัดเพศ ดังที่ รัชนา ดังโกสินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำเสมอว่า “ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์ความงาม Allergan Aesthetics มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรม จึงต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามารับบริการด้านความงามได้รับความรู้เพิ่มขึ้น (Educated) มีพลัง (Empowered) และรู้สึกมั่นใจ (Confident)” และต่อไปนี้คือ 10 เทรนด์นิยามความงามแห่งอนาคตที่ต้องจับตามอง
1. ความหลากหลายของแต่ละปัจเจกบุคคล (Diverse Individuality)
ผู้คนทั่วโลกไม่ว่าจะเชื้อชาติใดก็ตาม ต่างก็สนใจที่จะดูแลเรื่องความงาม และต้องการให้เอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของตนเองฉายชัดออกมา ไม่ว่าจะเป็นเพศใด มีไลฟ์สไตล์แบบไหน รูปร่างแตกต่างกันอย่างไร แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโชว์ความงดงามในเวอร์ชันที่ตนเองพึงพอใจและอยากเป็นได้ โดยไม่มีกรอบใดๆ มาขวางกั้น
2. นิยามใหม่ของบุรุษ (The New Masculine)
นิยามเรื่องความงามของสุภาพบุรุษในปัจจุบันมีขอบเขตกว้างขวางและมีความเป็นไปได้ในทุกมิติ และในอนาคตผู้ชายจะมีทางเลือกที่อิสระมากขึ้นในเรื่องการดูแลตนเอง แม้แต่การเดินเข้าไปรับบริการตามคลินิกความงามก็จะกลายเป็นกิจกรรมที่ไม่มีใครมาจับผิดใครอีกต่อไป ผู้ชายแมนๆ ก็สามารถเข้าถึงมิติการดูแลตัวเองได้อย่างหลากหลายเท่าเทียมเช่นกัน
3. ความงามที่ครอบคลุมทุกเพศ (Gender Inclusive Beauty)
ความงามจะไม่ถูกแบ่งเป็นความงามสำหรับเพศไหนอีกต่อไป เพราะความงาม การอยากสวยหล่อ อยากดูดี เป็นเรื่องของคนทุกคน ไม่ว่าใครก็สามารถยอมรับความแตกต่าง รสนิยมด้านความงามผ่านมุมมองและความชอบของตนเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตัวอย่างเช่น ไม่ว่าเพศใดก็ตามเมื่ออายุมากขึ้นก็หนีไม่พ้นปัญหาริ้วรอยต่างๆ เช่น ริ้วรอยเป็นเส้นบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หรือรอยตีนกา มีสาเหตุมาจากการแสดงสีหน้า มีการเลิกหน้าผากขึ้น การขมวดคิ้ว หรือการยิ้ม ซึ่งเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงให้ผิวหนังหดตัวเข้าหากันจนเกิดรอยพับรอยย่น ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการใช้สารลดเลือนริ้วรอย เพื่อช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยต่างๆ ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติ
4. นิยามความงามเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา (Ephemeral Expression)
นิยามของความงามจะไม่มีรูปแบบที่ถูกกำหนดตายตัวอีกต่อไป แต่เปิดช่องให้ความคิดสร้างสรรค์ได้ก้าวเข้ามาเป็นตัวกำหนดนิยามของความงาม ในอนาคตต่อจากนี้การทำให้ตัวเองดูดีขึ้น สวยหล่อขึ้น รูปร่างที่สวยได้แบบ Real Size จะกลายเป็นเรื่องสนุกที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์รูปแบบ Tailor Made ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับความชอบในแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
5. ประสบการณ์เหนือระดับ (Elevated Experiences)
ลูกค้าที่มีความภักดีต่อบริการและสินค้าด้านความงาม มีความคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมครอบคลุมแบบ 360 องศา ในทุกจุดที่ได้สัมผัสกับบริการหรือผลิตภัณฑ์
6. เปิดโลกใหม่ของความงามบนเรือนร่าง (New Body Frontiers)
นอกจากการดูแลความงามบนใบหน้าซึ่งได้รับความสำคัญมาตลอดแล้ว ปัจจุบันผู้ให้บริการด้านความงามทั่วโลกเริ่มเห็นแนวโน้มการดูแลความงามบนร่างกาย ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ในการขยายธุรกิจและการสร้างสรรค์นวัตกรรมอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น นวัตกรรมที่มีคุณภาพสูงอย่างการสลายไขมันด้วยความเย็น ทรีตเมนต์ลดไขมันแบบไม่ใช่การศัลยกรรม เป็นนวัตกรรมในการปรับแต่งเรือนร่างโดยการแช่แข็งไขมันส่วนเกิน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในทุกรูปร่าง ให้ทุกคนได้สวยดูดีในรูปร่างที่ตัวเองพอใจ
7. งามอย่างมีจริยธรรม (Aesth-Ethics)
ผู้ให้บริการด้านความงามต้องให้บริการอย่างมีมาตรฐานในระดับสูง
8. งามในแบบโลกดิจิทัล (The Digital Lens)
ทุกวันนี้ผู้คนเห็นภาพตนเองในสื่อดิจิทัลเป็นประจำ มีการใช้เทคโนโลยีตกแต่งภาพมากมาย ภาพตนเองที่ผู้คนเห็นในสื่อเหล่านี้อาจบิดเบือนไปจากความจริง และอาจทำให้คนเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับตนเองและความงามได้
9. ความงามและเมตะเวิร์ส (Aesthetics & The Metaverse)
คนในโลกอนาคตจะกลายเป็นบุคคลเสมือน (Virtual Native) ที่อาศัยอยู่ทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล
10. จุดจบของความแก่ชรา (Is this the End of Aging)
ผู้บริโภคพร้อมที่จะเริ่มทำทรีตเมนต์เพื่อดูแลความงามเร็วขึ้นเพื่อชะลอสัญญาณแห่งวัย ในขณะที่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้การสร้าง (Regenerate) เซลล์ใหม่ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้น แต่การค้นพบทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้หมายถึงจุดจบของความแก่ชราหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันหนุ่มสาวไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดต่างหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย วัดได้จากไลฟ์สไตล์การกิน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตที่ยึดมั่นในการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนมากขึ้น ทุกคนล้วนสรรหาสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง เน้นบำรุงทั้ง Inner Beauty และต้องการให้ลุคที่ปรากฏสู่สังคมภายนอก Outstanding ได้เช่นกัน เทคโนโลยีความงามจึงมีบทบาทมากๆ ในการช่วยยับยั้งชะลอวัย อย่าง Allergan Aesthetics ก็มีตัวช่วยดีๆ อย่างผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม ซึ่งสามารถช่วยปรับรูปหน้าและยังสามารถปรับปรุงคุณภาพผิว เติมเต็มริ้วรอย ช่วยยกกระชับในจุดเล็กๆ เช่น บริเวณริมฝีปาก และเพิ่มวอลุ่มในจุดที่กว้างขึ้น เช่น บริเวณคาง รวมทั้งการปรับรูปหน้าให้คมขึ้น ซึ่งเมื่อรูปหน้ากระชับ ไม่หย่อนคล้อย ก็ช่วยให้แลดูอ่อนกว่าวัย เป็นวิธีการเพิ่มความมั่นใจในความงามแนวใหม่ที่ไม่ใช่การผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นน้อยแต่สามารถเห็นผลลัพธ์ภายหลังการรักษาได้อย่างน่าพึงพอใจ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 เทรนด์นิยามความงามแห่งอนาคตเหล่านี้ จะเห็นว่าหลายๆ เทรนด์ก็เป็นที่นิยมในปัจจุบันกันอยู่แล้ว ทั้งการใช้สารเติมเต็ม สารลดเลือนริ้วรอย หรือเครื่องมือล้ำๆ ที่ช่วยสลายไขมันอย่างนวัตกรรมการสลายไขมันด้วยความเย็น ซึ่งตัวเลือกด้านความงามเหล่านี้เราเชื่อว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนที่อยากดูดีเป็น Best Version ในแบบของตัวเองได้เป็นอย่างดี อยู่ที่การเลือกสิ่งที่ใช่ที่สุดเพื่อแสดงตัวตนในแบบที่เป็นเรา
Allergan Aesthetics เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านเวชศาสตร์ความงามจากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้พัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่ให้ความสำคัญกับเทรนด์ความงามของโลกในอนาคต การเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยของ Allergan Aesthetics มีงานวิจัยรองรับมากกว่า 4,000 ชิ้น และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงสารเติมเต็มที่ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้า และเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย Allergan Aesthetics ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานทั้งจากแพทย์ผู้ทำการรักษาและผู้เข้ารับบริการทั่วไป มีเครือข่ายขยายพันธมิตรกับสถาบันความงามกว่า 1,200 คลินิกทั่วประเทศ ปัจจุบัน Allergan Aesthetics ประเทศไทย มีคลินิกเสริมความงามชั้นนําที่เป็นพันธมิตรมากมายเช่นกัน ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลเลอร์แกน เอสเธติกส์ สามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์ www.allerganaesthetics.co.th