สถานการณ์ของการแข่งขันกีฬาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการที่ศึกฟอร์มูลาวันได้ตัดสินใจเลื่อนไปเปิดฤดูกาลที่ออสเตรียในเดือนกรกฎาคมนี้ มหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้เลื่อนการแข่งขันครั้งแรกออกไปเป็นเวลา 1 ปี เช่นเดียวกับฟุตบอลยูโรที่ตัดสินใจเลื่อนออกไปแข่งขันในปี 2021
รวมถึงการตัดสินใจประกาศยกเลิกฤดูกาลของฟุตบอลลีกเอิงในฝรั่งเศส ทำให้ทิศทางของการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ที่เหลือในปี 2020 รวมถึงในปี 2021 ยังคงไม่มีความชัดเจนจากฝ่ายจัดการแข่งขัน เมื่อสถานการณ์ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19
แต่ล่าสุดทาง The Guardian สื่อประเทศอังกฤษ ได้พยายามฉายภาพของการแข่งขันกีฬาต่อจากนี้ ผ่านมุมมองทางการแพทย์ด้วยการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ถึงความเป็นไปของกีฬาที่จะกลับมาแข่งขันและคืนสู่สถานการณ์ปกติได้เมื่อใดในอนาคต
มองตามความเป็นจริง กีฬาจะกลับมาแข่งขันเมื่อใด
ภาพ: ดิษยุตม์ ธนบุญชัย / THE STANDARD
ดร.เนท ฟาวินี หัวหน้าแผนกทางการแพทย์ที่ Forward Healthcare Services ผู้ให้บริการทางการแพทย์ผ่านเทคโนโลยี
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตรวจเชื้อ ถ้าคุณสามารถทำได้รวดเร็ว แม่นยำ และสามารถที่จะตรวจได้มากพอ จนคุณสามารถตรวจผู้คนได้บ่อยครั้งในเวลาที่เร็ว นั่นคือจุดที่เราต้องไปถึงให้ได้ถ้าต้องการจะเปิดสนามแข่งขัน
“ลองคิดดูว่าถ้าคุณตรวจนักกีฬา NBA ได้ทุกวัน แยกคนที่ถูกตรวจพบเชื้อออกมาได้ และให้นักกีฬาแข่งขันในสนามที่ว่างเปล่า คุณจะสามารถกลับมาแข่งขันได้วันนี้เลย แต่คุณต้องมีอุปกรณ์การตรวจขนาดใหญ่ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีก 8 เดือนกว่าเราจะไปถึงจุดนั้น”
ดร.ดักลาส เจ วีบี ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพร่ระบาด มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
“เป็นคำถามที่ยากมาก ที่แน่ๆ ไม่ใช่ตอนนี้ การมีชุดตรวจจะทำให้เราทุกคนรู้สึกดีขึ้น ถ้านักกีฬาคนไหนถูกตรวจพบว่ามีเชื้อ แน่นอนเราต้องแยกเขาออกจากทุกคน และให้บริการทางการแพทย์กับพวกเขา
“การตรวจอีกอย่างคือ เราต้องสามารถตรวจได้ว่าใครเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันเชื้อโควิด-19 เพื่อหาว่านักกีฬาคนไหนที่เคยติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ และถ้าพวกเขามีภูมิคุ้มกัน เขาก็จะสามารถการันตีได้ว่าจะปลอดภัยจากเชื้อตัวนี้ในอนาคต”
ดร.จอฟฟ์ เอ็ม เดรเฮอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
“เป็นเรื่องยากที่เราจะกำหนดเวลาการกลับมาได้ เราอยากจะให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย และการันตีว่าถ้าหากพวกเขาป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรของผู้คนทั่วไป เมื่อทุกอย่างสามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้ กีฬาก็ควรที่จะสามารถกลับมาแข่งขันได้”
ดร.วิล บูลเซวิกซ์ ผู้เขียนหนังสือ Fiber Fueled
“มันขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ผมมองว่ากีฬาที่ไม่มีการปะทะกัน เช่น กอล์ฟ จะสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับกีฬาที่มีการปะทะกันจะเป็นเรื่องยากกว่า
“กีฬาอย่างเบสบอลถูกออกแบบมาสำหรับการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับ NFL พวกเขาต้องปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็อยากจะดูอเมริกันฟุตบอลในฤดูใบไม้ร่วงนี้ สิ่งที่ผมกังวลจะไม่น่ากังวลมาก หากเราสามารถตรวจนักกีฬาเหล่านี้ได้ก่อนวันแข่ง แต่นักกีฬาเหล่านี้ต้องฝึกซ้อมร่วมกันตลอดทั้งสัปดาห์ จะเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจนักกีฬาทุกวันก่อนซ้อม นั่นคือสิ่งที่ทำให้การกลับมาของฟุตบอลเป็นเรื่องที่ยาก”
การแข่งขันโอลิมปิกในปี 2021 จะปลอดภัยหรือไม่
ดร.เนท ฟาวินี
“ถ้าเรามีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างในฤดูร้อนปีหน้า ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้คนจะมีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะจัดการแข่งขันโอลิมปิก ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ในช่วงฤดูร้อนปีหน้าเราจะยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่แม้ว่าสังคมปกติจะกลับมาใช้ชีวิตได้วันต่อวัน แต่เราอาจยังไม่สามารถอยู่ในที่ที่จัดอีเวนต์เปิดกว้างระดับโลก ที่ให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมารวมตัวกันในที่เดียว ผมคิดว่าเราอาจจะได้เห็นโอลิมปิกถูกเลื่อนอีกครั้ง”
ดร.ดักลาส เจ วีบี
“หากอิงจากจุดที่เราอยู่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาอีกนานที่เราจะอยู่ในจุดที่มีความมั่นใจเกี่ยวกับการใกล้ชิดกันในสนามแข่งขัน รวมถึงโอลิมปิก ตอนนี้เรายังไม่พ้นขั้นวิกฤตในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นเพียงแค่การแพร่ระบาดเวฟแรก คนเราสามารถวางแผนไปสู่อนาคตได้ แต่ผมไม่มีความมั่นใจว่าโอลิมปิกจะเกิดขึ้นในปี 2021 ผมคิดว่าการจัดการแข่งขันรายการกีฬาขนาดใหญ่จะเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการแข่งขันที่ต้องมีแฟนกีฬาอยู่ในสนามแข่งขันด้วย”
ดร.จอฟฟ์ เอ็ม เดรเฮอร์
“การจัดการแข่งขันโอลิมปิกในเดือนกรกฎาคม 2021 อาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะถ้าการพัฒนาวัคซีนจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12-18 เดือนหรือมากกว่านั้น ดังนั้นแผนการที่จะให้ผู้คนหลายหมื่นคนไปอยู่ในสถานที่เดียวกันในการแข่งขัน จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับช่วงเวลาที่กำหนดไว้”
ดร.วิล บูลเซวิกซ์
“ผมคิดว่าโอกาสที่โอลิมปิกจะเกิดขึ้นอยู่ที่ 50-50 โอลิมปิกเป็นการแข่งขันระดับสากล คุณจะควบคุมผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลก? ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะจัดโอลิมปิกโดยไม่มีแฟนกีฬา แน่นอนพวกเขาสามารถทำได้ แต่คุณก็ต้องตัดผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจจากโอลิมปิกออกไปทั้งหมด หลังจากที่พวกเขาลงทุนเงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างสนามไว้รองรับผู้คนที่จะเดินทางมาจากทั่วโลก”
เมื่อไรแฟนกีฬาจะสามารถเดินทางกลับเข้าสนามแข่งขันได้
ภาพ: ดิษยุตม์ ธนบุญชัย / THE STANDARD
ดร.เนท ฟาวินี
“ผมจะเซอร์ไพรส์มากถ้าเราสามารถทำได้ในปีนี้ เราอาจจะต้องรอนานถึงปี 2021 ก่อนที่เราจะสามารถให้แฟนกีฬาเข้าสนามกีฬาได้ ถ้าเราสามารถยกระดับการตรวจเชื้อถึงจุดที่ทุกคนในประเทศสามารถตรวจเชื้อได้ทุกสัปดาห์ เราจะเริ่มต้นปล่อยให้ผู้คนที่ไม่ตรวจพบเชื้อเข้าสู่สนามแบบแบ่งกลุ่มเล็กๆ การตรวจขนาดใหญ่นี้คาดว่าจะทำได้ในช่วงสิ้นปี แต่ในช่วงเวลาระหว่างนั้น เราคงต้องรอจนกว่าจะมีวัคซีน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงกลางปีหน้า”
ดร.ดักลาส เจ วีบี
“เราจะต้องมีวัคซีนที่พัฒนาและใช้งานได้จริง ซึ่งหวังว่าถึงจุดนั้นผู้คนจะสามารถกลับมาใกล้ชิดกันได้ในประสบการณ์แข่งขันกีฬาปกติ ตอนนี้มีช่วงเวลาที่แตกต่างออกไปที่จะสามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่สำหรับผู้คนที่เดินทางและใกล้ชิดกัน เราจำเป็นต้องมีวัคซีนก่อน”
กีฬาควรจะเป็นเครื่องมือสำหรับการผลักดันเศรษฐกิจหลังโควิด-19 หรือไม่
ภาพ: ดิษยุตม์ ธนบุญชัย / THE STANDARD
ดร.เนท ฟาวินี
“การแข่งขันกีฬาที่มีแฟนกีฬาจำนวนมากไม่ควรจะเป็นหัวหอกในการผลักดันการเปิดเศรษฐกิจ เพราะการที่จะใช้ผู้คน 40,000 กว่าคนเข้าสู่สนามแข่งขันคือหนึ่งในสิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้ ซึ่งผมคิดว่าสิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ”
กีฬาถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของสังคม แต่วันนี้หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดได้บังคับให้กีฬาต้องถอยมาสู่แถวหลังของการต่อสู้กับการแพร่ระบาดด้วยการสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ ทั้งด้านของความรู้และเทคโนโลยี
มาถึงจุดนี้หลายๆ คนยังคงไม่สามารถตอบได้ว่าการแข่งขันกีฬาจะสามารถกลับมาแข่งขันเมื่อใด มีเพียงแค่องค์ประกอบสองอย่างสำคัญที่จะทำให้กีฬาสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น นั่นคือการคิดค้นวัคซีนและการตรวจเชื้อเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และต่อเนื่อง ขณะที่ผลกระทบด้านสัญญาและมุมเศรษฐกิจของการแข่งขัน ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัญหาของกีฬาที่ต้องระดมทรัพยากรทางความคิดอย่างหนักในการแก้ไขสถานการณ์ให้ทุกฝ่ายสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปพร้อมกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: