บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (ตัวย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก BABA และตัวย่อในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 9988) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 หรือในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 โดยพบว่าบริษัทมีรายรับรวมทั้งสิ้น 205,740 ล้านหยวน (ราว 1,053,311 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42,835 ล้านหยวน (ราว 219,299 ล้านบาท) เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 8%
ขณะที่ในเชิงตัวเลขจำนวนลูกค้าทั่วโลก Alibaba มีจำนวนลูกค้ารวมทั้งสิ้น 1,180 ล้านราย เพิ่มขึ้น 45 ล้านคนจากไตรมาสก่อนหน้า (สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 2564) ในจำนวนนี้เป็นผู้บริโภคในจีน 912 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 77% (ลูกค้าใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 21 ล้านราย หรือเทียบเท่า 47% ของผู้ใช้งานหน้าใหม่ทั้งหมด) โดยที่ลูกค้าผู้บริโภคในต่างประเทศอีก 265 ล้านคน มาจากแพลตฟอร์ม Lazada, AliExpress, Trendyol และ Daraz
แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “Alibaba เริ่มต้นปีงบประมาณนี้ด้วยไตรมาสแรกที่ดี ตลอดการดำเนินงานมามากกว่า 20 ปี Alibaba ได้พัฒนาธุรกิจออนไลน์ จนปัจจุบันครอบคลุมทั้งฝั่งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม และมีกลไกมากมายที่ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว เราเชื่อมั่นในการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และการสร้างคุณค่าในระยะยาวของ Alibaba เราจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคและช่วยให้ลูกค้าองค์กรของเราประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ดิจิทัล”
ด้าน แม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างที่เราเคยประกาศไว้ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่แล้วว่า เรากำลังนำกำไรส่วนเกินและเงินทุนมาลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนผู้ขาย และลงทุนในธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของเราเพื่อเจาะตลาดใหม่และให้บริการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
“เรากำลังเพิ่มวงเงินให้กับโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Repurchase) จากเดิม 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท เพราะเราเชื่อมั่นว่า Alibaba มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตระยะยาว เรามีเงินสดสุทธิที่แข็งแกร่ง และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เราซื้อหุ้นคืนจากใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา (ADS) แล้วราว 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่าสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรของ Alibaba มีการเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนนั้นเกิดจากการที่บริษัทได้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ เช่น Community Marketplaces, Taobao Deals, Local Consumer Services และ Lazada รวมทั้งการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตให้กับ Marketplace ค้าปลีกในจีน เช่น Idle Fish และ Taobao Live และการสนับสนุนผู้ขายของบริษัท
อ้างอิง: