“บอกหน่อยถ้าผมพูดผิด แต่เขาพาบอลไปเหมือน เธียร์รี อองรี มากเลยนะ”
นี่คือหนึ่งในเสียงสะท้อนจากแฟนฟุตบอลที่ได้เห็นลีลาการกระชากลากเลื้อยของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าเจ้าของค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ที่ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนจะลากไปจนสุดเส้นหลัง แล้วเลาะเส้นหลังแหวกผ่านนักเตะเอฟเวอร์ตันที่มารุมล้อมคนแล้วคนเล่า ก่อนจะจิ้มบอลออกจากเท้า ซึ่งลูกทะลักไปถึงเสาไกลเข้าทาง จาค็อบ เมอร์ฟี ที่อยู่ตรงนั้นพอดียิงง่ายๆ เข้าไป
จากสเต็ปการลากเลื้อย การพาบอลไปกับตัวในแบบที่ไม่น่าจะหาช่องไปได้ เล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราว เทคนิคที่เหนือชั้น การที่แฟนบอลจะเปรียบเปรยว่า อิซัคมีความคล้ายคลึงกับตำนานกองหน้าระดับ Hall of Fame ของพรีเมียร์ลีกอย่างอองรีก็พอจะเข้าใจได้ เพราะมันมีส่วนคล้ายที่ชวนให้คิดถึงจริงๆ
อองรีในร่าง Prime ก็เล่นคล้ายๆ แบบนี้แหละ เพียงแต่เส้นทางของอิซัคยังอีกไกลในการจะพิสูจน์ตัวเองว่าดีเท่ากับตำนานแห่งทีมอาร์เซนอล
อย่างไรก็ดี ประตูที่เกิดขึ้นคือประตูย้ำชัย 4-1 ให้นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด บุกไปถล่มเอฟเวอร์ตันในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งแทบจะเป็นการการันตีทางความรู้สึกถึงโอกาสในการติด Top 4 ของพวกเขา ที่จะทำให้ได้ไปตะลุยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้า
เพราะด้วยฟอร์มของนิวคาสเซิลเวลานี้ ดูเหมือนทีมเดียวที่อาจจะหยุดยั้งพวกเขาได้คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีม ‘แม็กพายส์’ กลายสภาพเป็นทีมที่น่าเกรงขามคือตัวของอิซัคนั่นเอง
อิซัคเป็นนักเตะที่กลุ่มทุนซาอุดีอาระเบียทุ่มงบประมาณให้ เอ็ดดี ฮาว ซื้อตัวเข้ามาเสริมทัพในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา เพื่อหวังยกระดับแนวรุกของทีมให้ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้นิวคาสเซิลฝากความหวังในแนวรุกอยู่ที่ตัวที่มีความวูบวาบเป็นหลักอย่าง อัลลัน แซงต์-แม็กซิแมง ปีกจอมเลื้อยที่คาดเดาทิศทางยากที่สุดคนหนึ่ง และอีกคนคือ มิเกล อัลมิรอน จรวดทางเรียบที่ประจำการทางฝั่งขวา
ขณะที่ศูนย์หน้านั้น พวกเขามีตัวระดับดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง คัลลัม วิลสัน อยู่แล้ว เพียงแต่อดีตกองหน้าที่เป็นนักเตะคนโปรดของฮาวมาตั้งแต่สมัยอยู่กับบอร์นมัธเป็นนักเตะที่มีประวัติอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถฝากความหวังเอาไว้ได้อย่างเต็มที่
คริส วูด ที่ซื้อมาจากเบิร์นลีย์ ก็เป็นเพียงตัวเลือกชั่วคราวเท่านั้น
ฮาวและผู้บริหารนิวคาสเซิล (ซึ่งรวมถึง แดน แอชเวิร์ด ผู้อำนวยการสโมสรฝีมือดีที่ดึงมาจากไบรท์ตัน) รู้ดีว่า พวกเขาต้องการกองหน้าที่ดีกว่านี้ เพื่อยกระดับทีมให้ได้ เพราะในส่วนอื่นๆ ทั้งแดนหลังและแดนกลางนั้นทุกอย่างดูมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นั่นเป็นที่มาของความพยายามอย่างไม่ลดละ จนได้ตัวอิซัคมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 60 ล้านปอนด์
เงินจำนวนดังกล่าวย่อมถูกตั้งคำถามอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะในขณะที่เราได้เห็นแววของกองหน้ารายนี้ว่า เป็นนักฟุตบอลที่มีความพิเศษอยู่ในตัวสูงตั้งแต่รายการฟุตบอลยูโร 2020 แต่การทุ่มงบจำนวนดังกล่าวให้กองหน้าที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ฝีเท้ามากพอ ก็ถือเป็นการลงทุนที่แบกความเสี่ยงสูง
และแรงกดดันนี้เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่อิซัคประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนต่อเนื่อง จนทำให้ลงสนามได้น้อยมาก แม้ว่าทุกครั้งที่ได้โอกาสลงสนามจะทำผลงานได้ค่อนข้างดีก็ตาม เพราะมีแกนของทีมที่แข็งแกร่งอย่าง บรูโน กิมาไรส์ และเกมรับที่นำมาโดย สเวน บอตแมน กับ แดน เบิร์น (อีกหนึ่งสายเลือดจอร์ดี้)
ในระหว่างนั้น แม้นิวคาสเซิลจะยังทำผลงานได้น่าประทับใจ ยืนระยะไหวในการเกาะพื้นที่ Top 4 แต่สิ่งที่เป็นคำถามคือ พวกเขายังดูขาดอะไรบางอย่างไป
อะไรบางอย่างที่เรียกว่า ‘จอร์ดี้ฮีโร่’ (Geordie Heroes)
ปกติแล้วนิวคาสเซิลเป็นทีมที่ถูกจดจำในฐานะทีมที่เล่นฟุตบอลเกมรุกบุกแหลก ซึ่งเป็นภาพจำมาตั้งแต่สมัยยุค 90 ที่ เควิน คีแกน เคยนำทีมเกือบคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ แต่ในความเป็นจริงทีมจากแดนอีสานของอังกฤษนั้นเป็นทีมที่มักจะมีนักเตะฮีโร่ในตำแหน่งศูนย์หน้ามาโดยตลอด
ตั้งแต่ยุคของ มัลคอล์ม แมคโดนัลด์ มาถึงตัวของคีแกนเองมาสู่ยุค 90 ที่มีทั้ง แอนดี้ โคล (ก่อนจะย้ายไปแมนฯ ยูไนเต็ด), เลส เฟอร์ดินานด์, ฟาอุสติโน อัสปริยา และนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสรอย่าง ‘ฮอตชอต’ อลัน เชียเรอร์
นักเตะที่แฟนบอลพร้อมจะจ่ายเงินเพื่อเข้ามาชมและเชียร์พวกเขาในสนาม
แต่นับจากสิ้นยุคของเชียเรอร์มา นิวคาสเซิลก็ไม่มีนักเตะแบบนี้อีกเลย แม้ว่าพวกเขาจะเคยวาดหวังกับ ไมเคิล โอเวน ที่ย้ายกลับมาจากเรอัล มาดริด ในปี 2005 ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง บวกกับยิ่งอยู่ใต้การปกครองของ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรจอมตืดแล้ว การจะทุ่มเงินซื้อศูนย์หน้าระดับสตาร์ราคาแพงเป็นเรื่องที่ไกลเกินฝัน
แต่วันนี้ เมื่ออิซัคสลัดอาการบาดเจ็บ เรียกความฟิตกลับมาได้เต็มที่ และค่อยๆ กลับมาแทรกตัวในทีม เหล่าสาวก ‘Toon Army’ ก็ยิ่งได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่า นักเตะคนพิเศษที่พวกเขารอคอยมานานหลายปีนั้นดูเหมือนจะปรากฏตัวแล้ว ซึ่งก็คือดาวรุ่งคนนี้นั่นเอง
โดยแม้ว่าจะยังไม่ถึงกับเบียดวิลสันเป็นตัวจริงถาวร แต่ทุกครั้งที่ได้โอกาสในการลงสนาม กองหน้ารายนี้จะสำแดงเดชให้เห็นถึงความพิเศษในตัว ซึ่งเป็นไปอย่างที่ฮาวเคยบอกเอาไว้ว่า “อิซัคมีทุกสิ่งที่นักเตะกองหน้าต้องมี”
รูปร่างสูงโปร่ง (สูงถึง 6 ฟุต 3 นิ้ว) ขายาว ความเร็ว ความสามารถในการเลี้ยงบอล การเอาตัวรอดในที่แคบ เทคนิคเหนือชั้น วิชันการอ่านเกม และความเยือกเย็นในการจบสกอร์
ความสามารถเหล่านี้ของเขากำลังเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับให้นิวคาสเซิลกลายเป็นทีมที่ดีไปอีกขั้น กลายเป็น ‘X-Factor’ ที่ตัดสินเกมให้กับทีมได้ ต่อให้ต้องทำด้วยตัวคนเดียวก็ตาม
และตามสถิติจนถึงตอนนี้ อิซัคทำไปแล้ว 10 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 16 นัด คิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้วจะมีส่วนต่อการได้ 1 ประตูให้นิวคาสเซิลในทุก 89 นาที
สถิติดังกล่าวเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก
สิ่งที่น่ากลัวแทนทีมอื่นคือ อิซัคตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากนิวคาสเซิลในยุคของฮาว พวกเขาเพิ่งเริ่มต้นเปล่งประกาย และมีโอกาสที่จะพัฒนาไปได้ดียิ่งกว่านี้อีก โดยเฉพาะในฤดูกาลหน้าที่จะมีการเตรียมตัวได้ดียิ่งขึ้นกว่าในฤดูกาลนี้ และหากไม่ผิดคาดคือ โอกาสในการได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในรายการระดับสูงสุดอย่างแชมเปียนส์ลีก
เพียงแต่ก่อนจะถึงตรงนั้น อิซัคและนิวคาสเซิลขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน
แต่คนที่ดีใจที่สุดคือแฟนนิวคาสเซิล วันนี้พวกเขาได้ ‘จอร์ดี้ฮีโร่’ กลับคืนสู่ไทน์ไซด์แล้ว
อ้างอิง: