ถือว่าสร้างความช็อกให้กับวงการแฟชั่น หลัง Alessandro Michele ได้ลาออกจาก Gucci ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ซึ่งเขาได้เข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อต้นปี 2015 ต่อจาก Frida Giannini และตลอดกว่า 7 ปีที่ผ่านมาก็ถือว่าได้ ‘ปฏิวัติ’ ภาพลักษณ์และความสำเร็จของแบรนด์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ จนทำให้ Gucci กลายเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดอีกครั้ง
Alessandro Michele เริ่มมาทำงานที่ Gucci ตั้งแต่ปี 2002 เมื่อยุค Tom Ford เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ และได้ไต่เต้ามาเรื่อยๆ จนเมื่อต้นปี 2015 ทาง Gucci ได้ประกาศให้เขามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่แบบสายฟ้าแลบ และมีเวลาเพียง 5 วันในการทำคอลเล็กชันเพื่อโชว์ที่ Milan Fashion Week
สิ่งที่ทำให้ Alessandro Michele ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลที่ Gucci คือการสามารถพลิกภาพลักษณ์และดีไซน์ของแบรนด์แบบ 360 องศาที่สอดแทรกความ Romanticism, Androgynous, Gender-Fluid และความสนุกจัดจ้าน ซึ่งดูร่วมสมัย แตกต่างจากแบรนด์ลักชัวรีคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง และเอาใจฐานลูกค้า Gen Z ได้อย่างเต็มหมัด บวกกับ Alessandro Michele สามารถทำงานร่วมกับซีอีโอ Marco Bizzarri ได้อย่างลงตัว และทั้งคู่ได้สร้างเกมการตลาดที่ทำให้แบรนด์ไม่เคยอยู่นิ่งและแบรนด์อื่นก็ต้องเลือกทำตามอยู่บ่อยครั้ง
แม้เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไม Alessandro Michele ออกจาก Gucci จะไม่ได้ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ณ เวลานี้ แต่ทางเว็บไซต์ WWD ก็ได้เชื่อมโยงกับประเด็นที่ว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของ Gucci ถือว่าลดลง และไม่ได้พุ่งปรี๊ดเหมือนในช่วง 4 ปีแรกที่ Alessandro Michele เข้ามาทำงาน อย่างเช่นตั้งแต่ต้นปี 2018 ในตอนนั้น Gucci เติบโตขึ้นสูงถึง 35% ต่อกัน 5 ไตรมาสรวด
สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไปคือใครจะเข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Gucci และทางแบรนด์จะเดินหน้าทิศทางไหน ทางแบรนด์จะเลือกดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ที่มาพร้อมฐานแฟนคลับและเพื่อนฝูงคนดังหรือไม่ จะเลือกดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงตอนนี้ หรือจะทำเหมือนตอนเลือก Alessandro Michele ที่เลือกโปรโมตคนภายในแทนที่เราอาจไม่รู้จักมาก่อน
ภาพ: Presley Ann / Getty Images for LACMA