วานนี้ (10 เมษายน) พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกจุดที่เป็นหัวใจในการเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร คือสถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และสนามบินดอนเมือง ได้เตรียมตำรวจกว่า 100 นายเพื่ออำนวยความสะดวก และจัดระเบียบการจราจรเพื่อแบ่งปริมาณรถรอบสถานีขนส่งไม่ให้เกิดผลกระทบกับการจราจร
ซึ่งการจราจรรอบสถานีขนส่งและเส้นทางเข้าออกเมืองช่วงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือช่วงขาวันที่ 12-14 เมษายน และขากลับวันที่ 16-18 เมษายน
นอกจากนี้กองบังคับการตำรวจจราจรยังร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก และ หน่วยงานอื่นๆ ในการตรวจวัดแอลกอฮอล์และตรวจหาสารเสพติดแก่พนักงานขับรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการดูแลช่วงเทศกาลสงกรานต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมกำลังตำรวจเอาไว้ประมาณ 4,000 นาย โดยแบ่งกำลังเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเพื่อดูแลประชาชนในการเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ ส่วนที่ 2 เพื่อดูแลประชาชนตามงานรอบกรุงเทพฯ ซึ่งมีสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ 11 จุด และขนาดเล็กรวมแล้วกว่า 100 จุด และจุดที่ 3 จะใช้ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดดูแลความเรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวต่ออีกว่า การตั้งจุดตรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะแบ่งเป็นจุดตรวจวินัยทางจราจรประมาณ 105 จุดทั่วกรุงเทพฯ เพื่อกวดขันในเรื่องของปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การไม่สวมหมวกนิรภัย การฝ่าไฟแดง หรือการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
และอีกส่วนคือจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่มีเกือบ 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยในปีนี้จะมีการปรับเวลาตั้งจุดตรวจจากเดิมที่เคยตั้งในช่วงกลางคืน เป็นตั้งหลังเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมีการดื่มและขับรถในช่วงเวลาดังกล่าว จึงต้องมีการปรับแผนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และสุดท้ายจะมีการตั้งจุดตรวจการแข่งรถในช่วงเวลากลางคืน
“จนถึงขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการประชุมและเตรียมความพร้อมเพื่อให้มั่นใจว่าจะลดการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียในช่วงเทศกาลนี้ได้” พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าว
