ไมค์ ดันเลวี ผู้ว่าการรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะมีการฉีดวัคซีนฟรีให้ชาวอะแลสกาและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา หรือออกจากรัฐอะแลสกาตามความสมัครใจ ณ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของรัฐจำนวน 4 แห่ง ได้แก่สนามบิน Anchorage, Fairbanks, Juneau และ Ketchikan การประกาศดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการเผยแผนกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งการฉีดวัคซีนดังกล่าวก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนี้ด้วย
“แนวคิดก็คือ เราสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ ทำไมจึงจะไม่ใช้มันล่ะ ดังนั้นเราจึงกล่าวกับนักท่องเที่ยวของเราว่า ถ้าคุณมาเยือนอะแลสกาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ คุณจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี” ดันเลวีเผย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว THE STANDARD ติดต่อไปยังสำนักงานบริการสุขภาพและสังคมของรัฐอะแลสกา (DHSS) เพื่อขอข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และได้รับคำยืนยันว่าโครงการนี้ครอบคลุมผู้มาเยือนจากต่างชาติด้วย เช่นเดียวกับที่ครอบคลุมชาวอเมริกัน โดยวัคซีนที่จะได้รับจะมีวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ซึ่งใช้ได้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หรือวัคซีนของ Moderna ที่ใช้ได้สำหรับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งวัคซีนทั้งสองยี่ห้อเป็นชนิดสองโดสและเป็นชนิด mRNA และเมื่อเราสอบถามถึงข้อจำกัดเรื่องโรคประจำตัวในการรับวัคซีน DHSS ให้คำตอบกับเราว่าผู้ที่มีโรคประจำตัวสามารถรับวัคซีนได้ ตราบใดที่พวกเขาไม่เคยมีอาการแพ้อย่างฉับพลันหรืออย่างรุนแรงต่อวัคซีนโควิด-19 หรือส่วนผสมใดๆ ในวัคซีนมาก่อน
และหากย้อนกลับไปในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ ไฮดี เฮดเบิร์ก ผู้อำนวยการแผนกสาธารณสุขของ DHSS ยืนยันว่า ทางรัฐยังมีวัคซีนสำหรับชาวอะแลสกาอยู่เป็นจำนวนมาก และหากนักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนอยู่ในรัฐอะแลสกาจนถึงกำหนดเวลาที่จะรับวัคซีนโดสที่สอง พวกเขาก็สามารถรับวัคซีนได้ที่คลินิกที่ให้บริการวัคซีนในรัฐได้ทุกแห่ง หรือหากพวกเขาไม่ได้อยู่ในอะแลสกาแล้ว พวกเขาก็สามารถติดต่อสถานพยาบาลหรือผู้ให้บริการฉีดวัคซีนใกล้บ้านเพื่อรับวัคซีนโดสที่สองได้ ส่วนบริเวณที่จะมีการฉีดวัคซีน จะมีการตั้งเป็นคลินิกนอกบริเวณพื้นที่ Security Area ทำให้ครอบครัวชาวอะแลสกาที่มารอรับผู้มาเยือนก็สามารถรับวัคซีนได้ด้วย
“เรามีวัคซีนเหลือเฟือ และเราไม่ขาดแคลนวัคซีน” เฮดเบิร์กย้ำกับผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลง
อย่างไรก็ดี ทางเลือกของการ ‘รับวัคซีนใกล้บ้าน’ ที่เฮดเบิร์กกล่าวถึงในการแถลงอาจไม่ใช่ทางเลือกสำหรับคนไทยในขณะนี้ (หากมีคนไทยไปเยือนอะแลสกาแล้วกลับมาก่อนถึงกำหนดรับวัคซีนโดสที่สอง) เนื่องจากเฮดเบิร์กกล่าวในการแถลงว่า ผู้รับการฉีดวัคซีนต้องมีการตรวจสอบให้มั่นใจว่าวัคซีนโดสแรกกับโดสที่สองต้องเป็นชนิดเดียวกัน ซึ่งวัคซีนทั้งสองชนิดที่จะมีให้บริการที่อะแลสกายังไม่มีการนำเข้ามาในไทยในขณะนี้ สำหรับบริบทของสหรัฐอเมริกานั้น ขณะนี้มีการอนุมัติให้ใช้วัคซีนในประเทศอยู่สามชนิด ได้แก่ Pfizer-BioNTech, Moderna, และ Johnson and Johnson แต่วัคซีนของ Johnson and Johnson ถูกแนะนำโดยหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ ให้ระงับใช้งานชั่วคราวไปก่อน อันเนื่องจากปัญหาลิ่มเลือดที่พบได้ยาก)
ทั้งนี้ ทางรัฐอะแลสกาจะมีการทดสอบการให้วัคซีนที่สนามบิน Anchorage สำหรับชาวอะแลสกาก่อนในปลายเดือนเมษายนนี้ก่อนเป็นเวลา 5 วัน เพื่อดูระดับความสนใจ และทำให้มั่นใจว่ากระบวนการรับวัคซีนนั้นง่ายและเข้าถึงได้
สำนักข่าว AP รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีชาวอะแลสกาอายุ 16 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นผู้ที่เข้าเงื่อนไขรับวัคซีนได้ รับวัคซีนครบสองโดสไปแล้วราวร้อยละ 40 และทางการกำลังพยายามหาทางกระตุ้นให้ประชาชนรับวัคซีนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจากมูลนิธิ Kaiser Family ระบุว่า ยังมีรัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯ อีก 21 รัฐที่ไม่มีเงื่อนไขด้านการมีถิ่นที่อยู่ (Residency) ในการรับวัคซีนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บทความของ The New York Times ก็หยิบยกความเห็นจากนักระบาดวิทยาต่อกรณีนี้ว่า สหรัฐฯ กำลังมีปัญหาเรื่องการกระจายวัคซีน เนื่องจากในขณะที่รัฐอะแลสกามีวัคซีนเหลือมากพอ แต่คำขอให้เพิ่มจำนวนวัคซีนที่รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่ช่วงมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงอีกครั้ง กลับถูกบอกปัดจากรัฐบาลของโจ ไบเดน บทความดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงความกังวลของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ ‘การท่องเที่ยวเชิงวัคซีน’ ที่ชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งอาจจะตัดสินใจเดินทางข้ามรัฐเพื่อไปรับวัคซีนในรัฐที่มีวัคซีนเกินความต้องการ ถึงกระนั้น ความเห็นอีกด้านจากนักวิทยาศาสตร์อีกรายก็ระบุว่า เมื่อถึงวันที่ 1 มิถุนายนที่รัฐอะแลสกาเริ่มให้วัคซีนที่สนามบิน ชาวอเมริกันที่ต้องการวัคซีนส่วนใหญ่ก็น่าจะได้วัคซีนแล้วคนละอย่างน้อยหนึ่งโดส ซึ่งก็อาจจะทำให้พวกเขาไม่ต้องบินไปถึงอะแลสกาเพื่อรับวัคซีนอีกต่อไป
ส่วน Anchorage Daily News สื่อท้องถิ่นในอะแลสกาก็ระบุว่า โดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังรัฐอะแลสกาส่วนใหญ่จะเดินทางมาด้วยเรือสำราญ และทางการแคนาดาก็ประกาศต่ออายุการระงับเดินเรือสำราญไปจนถึงปี 2022 ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้หลายองค์กรกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางโดยเครื่องบินมายังอะแลสกาแทน
ภาพ: JIM WATSON / AFP
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/alaska-coronavirus-pandemic-coronavirus-vaccine-504eb7541894d24203586a28817ff99b
- https://www.adn.com/alaska-news/2021/04/16/alaska-will-offer-free-covid-19-vaccines-to-tourists-starting-june-1/
- https://www.nytimes.com/2021/04/18/world/covid-vaccines-tourism-alaska.html
- https://www.kff.org/other/state-indicator/populations-eligible-for-covid-19-vaccine/?currentTimeframe=0&sortModel=%7B%22colId%22%3A%22Residency%20Requirements%20for%20COVID-19%20Vaccination%22%2C%22sort%22%3A%22asc%22%7D#note-8
- https://www.facebook.com/176283123315037/videos/1175932326161785
- https://twitter.com/GovDunleavy/status/1383168251102855170