รัฐแอละแบมาของสหรัฐอเมริกาดำเนินการประหารชีวิต เคนเนธ ยูจีน สมิธ (Kenneth Eugene Smith) ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมวัย 58 ปี ด้วยการรมก๊าซไนโตรเจน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ที่มีการลงโทษประหารชีวิตด้วยวิธีนี้
สมิธถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในปี 1989 ในข้อหาฆาตกรรม เอลิซาเบธ เซนเน็ตต์ (Elizabeth Sennett) ภรรยาของบาทหลวงชาร์ลส์ เซนเน็ตต์ ซีเนียร์ (Charles Sennett Sr.)
โดยเขาได้รับการจ้างวานจาก บิลลี เกรย์ วิลเลียม (Billy Gray Williams) ที่ได้รับการจ้างวานอีกต่อหนึ่งจากบาทหลวงเซนเน็ตต์ และมี จอห์น ฟอร์เรสต์ พาร์คเกอร์ (John Forrest Parker) ร่วมลงมือฆาตกรรม ซึ่งบาทหลวงเซนเน็ตต์ฆ่าตัวตายหลังรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย ขณะที่วิลเลียมถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2020 ส่วนพาร์คเกอร์ถูกประหารด้วยการฉีดสารพิษในปี 2010
ในปี 2022 ทางการรัฐแอละแบมาเคยดำเนินการประหารชีวิตสมิธด้วยการฉีดสารพิษแล้วแต่เขารอดชีวิต ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้วิธีรมก๊าซไนโตรเจนบริสุทธิ์ หรือการหายใจเอาก๊าซที่ไม่มีออกซิเจนเข้าไป จนทำให้เซลล์สลายตัวและนำไปสู่ความตาย
ก่อนหน้านี้สมิธได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดและศาลรัฐบาลกลางให้ยับยั้งการประหารชีวิตด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งทนายของเขาระบุว่าเป็นวิธีการที่ ‘โหดร้าย’ และ ‘ไม่ปกติ’ แต่ผู้พิพากษาของทั้ง 2 ศาลตัดสินปฏิเสธคำร้องดังกล่าว
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เรียกร้องให้ยุติการประหารชีวิตสมิธ และระบุว่าการประหารชีวิตสมิธด้วยวิธีรมก๊าซไนโตรเจนอาจเทียบเท่ากับการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ รัฐแอละแบมาและอีก 2 รัฐของสหรัฐฯ ได้รับรองให้ใช้วิธีการรมก๊าซไนโตรเจนในการลงโทษประหารชีวิต เนื่องจากยาที่ใช้ในการประหารด้วยการฉีดสารพิษนั้นหาได้ยากยิ่งขึ้น
ขณะที่พยานที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การประหารชีวิตเผยว่า สมิธได้กล่าวก่อนจะถูกประหารชีวิตว่า “คืนนี้แอละแบมาทำให้มนุษยชาติต้องถอยหลังหนึ่งก้าว ขอบคุณที่มาสนับสนุนผม รักทุกคนนะครับ”
ภาพ: U.S. Alabama Department of Corrections / Handout via REUTER
อ้างอิง:
