ย้อนกลับไปในปี 2558 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในตลาดเน็ตบ้านของไทยได้มีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้นในตลาด นั่นคือ AIS Fibre
ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายในการเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ซึ่งมี ‘สงครามราคา’ อย่างดุเดือด แต่ AIS Fibre ได้พิสูจน์แล้วว่า การมาทีหลังแต่ ‘ปัง’ กว่านั้นเป็นอย่างไร ยืนยันด้วยตัวเลขที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในระดับ 2 หลักในทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าภาพรวมของตลาด และมากกว่าผู้เล่นทุกราย
เทียบให้เห็นภาพคือ ในไตรมาส 3 ปี 2563 AIS Fibre มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 1.26 ล้านคน ส่วนแบ่งตลาด 12% และเติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2% เท่านั้น
ถือเป็นการเติบโตท่ามกลางความท้าทายครั้งใหญ่อย่างการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคถึง 5 ข้อ ได้แก่
- การใช้งานจากเดิมที่หนาแน่นในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ กลับมาหนาแน่นในวันจันทร์-ศุกร์แทน ซึ่งเกิดจากการที่ผู้บริโภคต้องทำงานจากที่บ้าน และพื้นที่การใช้งานจากที่กระจุกตัวในตัวเมือง ได้ขยายออกไปย่านชานเมืองและต่างจังหวัดมากขึ้น
- ช่วงเวลาในการใช้งานที่เปลี่ยนไป จากเดิมผู้บริโภคจะใช้งานมากในช่วงเวลา 20.00-01.00 น. แต่ช่วงที่ผ่านมากลับใช้งานมากในช่วงเวลาทำงานปกติคือ 08.00-18.00 น.
- ปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น 20-30% ด้วยกัน ด้วยจากที่ใช้เฉพาะตอนเย็นได้ขยับมาเป็นทั้งวัน
- Conference Application และ Streaming Application เติบโตอย่างก้าวกระโดด อันเป็นผลมาจากการประชุม หรือเรียนจากที่บ้าน และไลฟ์สดขายของออนไลน์
- Device ที่ใช้งานเพิ่มขึ้นในแต่ละบ้าน จากที่มีเพียงสมาร์ทโฟน ได้เพิ่มแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และ Smart TV เข้ามา
การเติบโตที่เกิดขึ้นยังเป็นอีกข้อพิสูจน์ว่า AIS Fibre จัดการได้อยู่หมัดแค่ไหน แม้จะมีพายุใหญ่ถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ตาม
“เรารู้ว่าเรานั้นเข้ามาทีหลัง ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ ภายใต้การคิดนำ ทำก่อน ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าจริงๆ และเป็นรายแรกที่นำเสนอให้แก่ลูกค้า
“ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้คำว่า เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า ซึ่งจากวันแรกจนถึงวันนี้ สามคำดังกล่าวก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง และยังเป็นจุดเริ่มต้นในทุกๆ บริการที่ AIS Fibre ทำ” กิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส ฉายให้เห็นถึงเบื้องหลังที่ทำให้ AIS Fibre ประสบความสำเร็จ
กิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส
ขณะเดียวกันไม่เพียงแต่ตัวเลขการเติบโตเท่านั้น อีกหนึ่งบทพิสูจน์การมาทีหลังแต่ปังกว่า! ของ AIS Fibre ที่เกิดขึ้นในปีนี้ คือการเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิกประจำปี 2020 กับรางวัล 2020 Asia-Pacific Fixed Broadband Service Provider of the Year การันตีโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 50 ปี
นับเป็นความภาคภูมิใจของ AIS Fibre ที่สามารถเป็นบริษัทไทยเพียงแห่งเดียวที่สามารถยืนหนึ่ง! ท่ามกลางประเทศใหญ่ๆ ในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งต้องบอกว่าการจะคว้ารางวัลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีหลักการพิจารณาที่เข้มข้นถึง 6 ข้อ ซึ่ง AIS Fibre สามารถผ่านทุกข้อไปอย่างสมศักดิ์ศรี
- Financial Performance หรือผลประกอบการที่โดดเด่น
อย่างที่บอกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ AIS Fibre มีตัวเลขการเติบโตเป็นหลักมาโดยตลอด เมื่อเจาะลึกเข้าไปในปี 2562 จะพบว่า AIS Fibre มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 29% และสามารถเพิ่มฐานผู้ใช้บริการได้ 42.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 10% แม้ว่าจะเข้าสู่ตลาดช้ากว่าผู้ให้บริการรายอื่น แต่สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็นจำนวนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
- Implementation of Best Practice หรือการเป็นผู้นำนวัตกรรมใหม่
ไม่ว่าจะออกนวัตกรรมหรือบริการไหนมาก็แล้วแต่ AIS Fibre มักจะขยับตัวเป็นผู้นำรายแรกของไทยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยี Fiber Optic 100% มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัด และมีผู้ใช้บริการกว่า 1.04 ล้านรายในปี 2562 พร้อมออกแพ็กเกจ SuperMESH WiFi ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสัญญาณให้เร็ว แรง ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ติดตั้ง โดยไม่ต้องเดินสาย LAN และยังสามารถเชื่อมต่อกันได้มากที่สุดถึง 8 ตัว รวมทั้งร่วมมือกับ Huawei ยกระดับนวัตกรรม SuperMESH WiFi และเราท์เตอร์มาตรฐานให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น สามารถใช้งานได้แรงเต็มสปีดถึง 1 Gbps บน WiFi เป็นรายแรกในตลาดที่ทำได้จริง
- Visionary through Mega Trends หรือความมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก
5G กำลังเป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงและทุกคนพูดถึงกัน แน่นอนว่า AIS บริษัทแม่ของ AIS Fibre กำลังดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และมีแผนที่จะเปิดตัว 5G Fixed Wireless Access ให้กับผู้ใช้บริการ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยี 5G ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการ 24 รายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดตัวเครือข่าย 5G แล้ว และ AIS ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเหล่านั้น
- Customer Service Experience หรือความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
สิ่งที่ AIS Fibre ให้ความสำคัญมาตลอดคือ ‘ลูกค้า’ ดังนั้น AIS Fibre จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการเพื่อสนองตอบความของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น Speed Toggle บริการที่ลูกค้าสามารถปรับสปีดความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดได้ตามความต้องการใช้งานรายแรกในไทย เพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ, Dual Bandwidth แยกท่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้านและการใช้งานเกม ใช้งานเต็มสปีดทั้ง 2 ท่อ แม้ใช้งานในเวลาเดียวกัน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานของเหล่าเกมเมอร์ ขณะที่ได้ร่วมมือกับ SK Telecom ผู้ให้บริการของเกาหลีใต้และ Singtel ผู้ให้บริการของสิงคโปร์ เปิดตัวแพลตฟอร์มเกมร่วมทุนที่มีกลุ่มผู้เล่นเกมประมาณ 800 ล้านคนทั่วภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าผ่านการเป็นพันธมิตรและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
- ความมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการที่แท้จริง (Addressing Unmet Needs)
ด้วยเครือข่าย 5G จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถส่งมอบโซลูชัน 5G Fixed Wireless Access ไปยังสถานที่ที่ AIS Fibre เข้าไม่ถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ชนบทและสถานที่ห่างไกลจำนวนมาก
- Brand Equity หรือการสร้างคุณค่าของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา AIS Fibre ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยมุ่งเน้นทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้า งานบริการ และเครือข่าย โดยได้รับการการันตีคุณภาพและมาตรฐานด้วยรางวัลระดับโลกอย่าง Ookla® Speedtest® ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมรางวัลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในประเทศไทย (Thailand’s Fastest ISP) ปี 2562 อีกด้วย
อย่างไรก็ตามย่างก้าวต่อไปของ AIS Fibre ก็น่าจับตาอยู่ไม่น้อย เพราะแม่ทัพ AIS Fibre ได้กล่าวไว้ว่า “5 ปีที่ผ่านมากำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นและกำลังเติบโต ต่อจากนี้ไปจะเป็นช่วงที่ AIS Fibre กำลังเติบโตเต็มที่” โดยปี 2564 AIS Fibre จะต้องขึ้นเป็น Top 3 ของตลาด และมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 20%”
เป็นเป้าหมายที่ไม่ง่าย แต่กิตติย้ำว่าทำได้แน่นอน โดยเบื้องต้น AIS Fibre ได้วางกลยุทธ์สำหรับปี 2564 ไว้ 2 ข้อด้วยกัน เรื่องแรกคือการขยายพื้นที่ให้บริการ ซึ่งแม้จะครบ 77 จังหวัดแล้วก็จริง แต่ที่ผ่านมาในบางจังหวัดยังอยู่ในตัวเมือง แต่จะขยายไปสู่อำเภอรอบนอกมากขึ้น
และเรื่องที่ 2 การขยายช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำ ทั้ง Telecom Shop และ None Telecom Shop อาทิ JMART, TG, Power Buy, Power Mall, iStudio, .life, AIS Corner @ Family Mart, AIS Corner@Tops Daily, AIS Corner@Mini BigC และไปรษณีย์ไทย ซึ่งจะช่วยให้ AIS Fibre สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าที่เคย
ทั้งหมดยังเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องจับตาให้ดี เพราะทุกย่างก้าวของ AIS Fibre ในปี 2564 ที่นอกจากจะสร้างความ ‘ปัง’ แล้ว ยังถือเป็นการชี้เทรนด์การทำ Digital Transformation ของประเทศไทยที่เติบโตอย่างชัดเจนในทุกระดับอีกด้วย