เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ที่ Microsoft ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกอีกครั้งแซงหน้า Apple เมื่อวันพฤหัสที่ 11 มกราคม ก่อนที่จะกลับลงไปสู่อันดับที่ 2 หลังจากตลาดปิดการซื้อขายในวันเดียวกัน
ถึงแม้ว่าการขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของ Microsoft จะเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราวในวันเดียว แต่ความร้อนแรงของเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ในปี 2023 และการเริ่มต้นปีที่ไม่ค่อยจะสดใสของ Apple ก็เป็นปัจจัยที่เข้ามาเปลี่ยนเกมการช่วงชิงตำแหน่งเบอร์ 1 ของ ‘บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก’ ระหว่างบิ๊กเทคสองเจ้านี้
Reuters รายงานว่า มูลค่าตลาดของ Microsoft ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันนั้นที่ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายมาเป็นอันดับ 1 ในช่วงระหว่างวัน ก่อนที่สุดท้ายจะลดลงเหลือ 2.86 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 2.89 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของ Apple
ตั้งแต่ปี 2023 ราคาหุ้นของ Microsoft นั้นเติบโตขึ้นมาอย่างมากจากความสนใจของนักลงทุนในพัฒนาการของเทคโนโลยี AI ซึ่งทางบริษัทเองให้ความสำคัญค่อนข้างมาก ถึงขั้นที่ Satya Nadella ต้องการจะนำปัญญาประดิษฐ์เข้าไปอยู่ในทุกส่วนของ Microsoft และพวกเขายังได้ร่วมกับ OpenAI ผ่านการเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดและมันสมองของบริษัทผู้สร้าง ChatGPT
ในขณะที่ Apple กลับถูกทิ้งให้ตกขบวนจากเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี 2023 และยังต้องเจอกับความท้าทายของดีมานด์ iPhone ที่ลดลง โดยเฉพาะกับตลาดประเทศจีนที่สัปดาห์แรกของปีนี้มียอดขายตกลงกว่า 30% แบบรายปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีและส่วนแบ่งตลาดที่ต้องเสียให้กับ Huawei เพราะคำสั่งห้ามการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้ผลิตในจีนโดยรัฐบาล
“มันถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่ช้าก็เร็ว Microsoft จะแซงหน้า Apple ได้ในที่สุด เพราะพวกเขาเติบโตได้ในอัตราที่เร็วกว่าการปฏิวัติด้านปัญญาประดิษฐ์” Gil Luria นักวิเคราะห์ D.A. Davidson กล่าวกับ Reuters
การแข่งขันของบิ๊กเทคสองเจ้านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ที่ Apple เคยกล่าวหาว่าซอฟต์แวร์ของ Windows มาจากการลอกเลียนแบบดีไซน์ของ Macintosh แต่สุดท้ายทาง Apple ก็ต้องพ่ายแพ้คดีการฟ้องร้องดังกล่าวตามคำตัดสินของศาล ส่งผลให้ Microsoft ขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดพีซีเป็นเวลาหลายทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสู่ยุคของสมาร์ทโฟน ความสำเร็จของ iPhone ทำให้มูลค่าตลาด Apple พุ่งทะยานเหนือคู่แข่งของเขาได้ในปี 2010 และสามารถรักษาตำแหน่งได้ยาวนานหลายปีระหว่างที่ Microsoft ยังหาคำตอบที่จะโต้กลับไม่ได้ในเวลานั้น
แต่การมาของ AI ก็เริ่มเปลี่ยนสถานการณ์ให้ต่างออกไป เพราะความสำเร็จของ ChatGPT ที่ส่งผลให้ความต้องการบริการคลาวด์ของ Microsoft เข้ามาเยอะมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับในปัจจุบัน นับตั้งแต่เปิดปีมาหุ้นของ Apple ร่วงไปแล้ว 3.3% ในขณะที่ Microsoft เพิ่มขึ้น 1.8% (ข้อมูล ณ 11 มกราคม หลังจากตลาดฝั่งสหรัฐอเมริกาปิด)
หุ้นทั้งสองตัวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างแพง ณ ตอนนี้หากประเมินจากปัจจัยค่า P/E โดยหุ้น Apple ซื้อขายอยู่ที่ค่า Forward P/E 28 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 19 เท่า ตามข้อมูลของ London Stock Exchange Group (LSEG)
ส่วน Microsoft ซื้อขายอยู่ที่ค่า Forward P/E 31 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีเช่นเดียวกันที่ 24 เท่า
มุมมองจากนักลงทุนในวอลล์สตรีทตอนนี้เอนเอียงเชิงบวกไปทาง Microsoft มากกว่า โดย 90% ของโบรกเกอร์แนะนำให้เข้าซื้อ และไม่มีเจ้าไหนแนะนำให้ขายเลย ผิดกับฝั่งของ Apple ที่มีถึง 2 โบรกเกอร์ประเมินว่าควรขาย และมีเพียง 2 ใน 3 ที่แนะนำให้ซื้อ
ภาพ: Danil Shamkin / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: