เราอยู่ในยุคที่ AI กลายเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้กับทุกอุตสาหกรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ธุรกิจที่รอดอาจไม่ใช่ธุรกิจที่ปรับตัวเก่งเท่านั้น แต่ต้อง ‘ปรับตัวเร็วแบบ Real Time’ AI ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง
การเติบโตของธุรกิจยุคใหม่จึงต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์และเครื่องมือที่เชื่อมโยงและหลอมรวมข้อมูลมหาศาลให้กลายเป็นพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัดภายใต้ระบบนิเวศการตลาดยุคใหม่ที่ท้าทาย
เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ตอกย้ำจุดยืนผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI เปิดเวทีเสวนาเทคโนโลยีการตลาดและโฆษณาแห่งปี ‘EGG Digital Nexus 2025’ บนแนวคิด ‘The Fusion Frontier’ เชื่อมต่อทุกความเป็นไปได้ พร้อมคว้าโอกาสทางธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัด ผนึกพลังผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากองค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ True Corporation, CP AXTRA, BCG, Bain & Company, TCP Group, Nestlé, Unilever, Google, TikTok, LINE, Meta, Dentsu, เต่าบิน, L’Oreal, Muangthai Life Insurance, WPP Media Thailand, Mita Wealth (Chubby) และ Punpromotion ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอนาคตเศรษฐกิจไทยในยุค AI First การวางรากฐาน AI Transformation อย่างยั่งยืน
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 1](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-1.jpg?x82337)
มอง AI ในฐานะเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษรฐกิจ
ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด คาดการณ์ว่า AI จะช่วยเพิ่ม GDP โลกได้ถึง 14% ภายในปี 2030 คนที่เอา AI มาเป็น Co-Worker จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เวลาการทำงานลดลง 60-70% สอดคล้องกับตัวเลขการเติบโตของ AI Platform Services ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 32%
ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI สร้างการเติบโตได้ 18% เมื่อเทียบกับธุรกิจที่ไม่มีการใช้ AI เลย สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้สูงกว่าคู่แข่งถึง 30% ขณะเดียวกันยังสามารถใช้ AI เชิงกลยุทธ์ช่วยตัดสินใจได้เร็วขึ้น 2-5 เท่า ลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ 15-25% และภายในปี 2026 บริษัทขนาดใหญ่ 75% จะนำ AI เข้ามาใช้
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 2](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-2.jpg?x82337)
ความท้าทายคือ หลังโควิด-19 ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์ลดลงมากถึง 80% โดยมีการเปลี่ยนแบรนด์ภายใน 1 ปี และกว่า 91% คาดหวังการตอบกลับภายใน 1 นาที ขณะเดียวกันธุรกิจที่สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลจะสร้างการเติบโตได้มากกว่าธุรกิจที่มอบประสบการณ์ทั่วไปถึง 17.5% ที่น่าสนใจคือ แบรนด์ที่มี Engagement กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสรักษาฐานลูกค้าได้มากกว่าถึง 2.6 เท่า
คว้าโอกาสใหม่ในโลกธุรกิจ: Connecting Infinite Growth through Context, Culture & Commerce
การเชื่อมต่อทุกจุดสัมผัสของธุรกิจและผู้บริโภคเข้าด้วยกันเป็นหัวใจสำคัญของ EGG Nexus หรือระบบนิเวศทางการตลาดยุคใหม่ที่หลอมรวมข้อมูลลูกค้า 720 องศา จากทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่การวิเคราะห์อินไซต์ลูกค้า วางกลยุทธ์แบรนด์ วางแผนและลงสื่อแบบครบวงจร ไปจนถึงการวัดผลแบบเรียลไทม์ เพื่อขับเคลื่อนการตลาดด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการ Connect, Create, Communicate, Convert และ Curate เพื่อสร้าง One Single View ที่นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ Hyper-Personalized พร้อมสร้างคลื่นลูกใหม่ในการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัด
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 3](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-3.jpg?x82337)
ไฮไลท์สำคัญของงานคือการเสวนา ‘Connecting Infinite Growth through Context, Culture & Commerce’ ที่ชูแนวทาง 3Cs กุญแจสำคัญในการคว้าโอกาสใหม่ในโลกธุรกิจ ทิพวัลย์ วงศ์ธรรมชาติ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Analytics AI and Consultation ขยายความ ‘Context’ หรือการตีความบริบทต่อจากนี้ต้อง ‘รวดเร็วและแม่นยำ’
“การมีข้อมูลมาก ไม่ได้แปลว่าเข้าใจลูกค้าได้จริง เราต้องรู้ก่อนว่าตลาดของเราอยู่ตรงไหน บริบทคืออะไร” ทิพวัลย์ บอกว่าหัวใจที่แท้จริงคือการตีความบริบทให้แม่นยำที่สุด ซึ่ง AI จะเข้ามาทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และดึง ‘Context สำคัญ’ ออกมาเพื่อหา ‘What Matters’ และ ‘What’s Next’ จากงานวิจัยพบว่าองค์กรที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลหลายแหล่ง ลดต้นทุนได้เฉลี่ย 30%
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 4](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-4.jpg?x82337)
รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ MarTech Solution บอกว่า ‘Culture’ คือพลังขับเคลื่อน ดังนั้น การตลาดยุคใหม่ต้องเริ่มจากผู้คน และปล่อยให้ผู้คนเป็นพลังในการขับเคลื่อนแบรนด์
สิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคสนใจผ่านข้อความที่ใช่ ในช่องทางและจังหวะที่เหมาะสม “ผู้บริโภคไม่ได้สนใจว่าแบรนด์ดีแค่ไหน แต่สนใจว่าแบรนด์อยู่ร่วมกับชีวิตเขาอย่างไร มีจุดยืนอย่างไร อยู่โลกเดียวกับเขาหรือเปล่า พูดภาษาเดียวกับเขามั้ย”
โดย AI จะช่วยค้นหาและวิเคราะห์กระแส พร้อมสร้างคอนเทนต์เฉพาะบุคคล (Hyper-Personalized Content at scale) ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและความชอบ เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
แบรนด์ที่กลายเป็น Social First Brand หรือแบรนด์ที่เข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้คนบนโซเชียลจริงๆ จะมีรายได้มากกว่าแบรนด์ทั่วไปเฉลี่ยถึง 10.2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเสียงของผู้คน คือจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมร่วม และเมื่อแบรนด์ฟังเสียงเหล่านี้และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาจะทำให้แบรนด์เติบโตเร็วกว่า 6 เท่า
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 5](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-5.jpg?x82337)
ชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence อธิบายต่อว่า ‘Commerce’ คือการปลี่ยนวัฒนธรรมให้กลายเป็นการค้าจริง ด้วยการสร้างประสบการณ์แบบ Hyper-Personalized ที่ตรงใจแต่ละบุคคล โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน
“สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ การใช้ Retail Media Network แบบ Omnichannel ในการสร้าง ‘ความสนใจ’ และเปลี่ยนไปสู่การสร้าง ‘ยอดขาย’ ที่วัดผลได้จริง”
ชัชพล บอกว่า “68% ของนักการตลาดมองว่า Retail Media Networks กำลังกลายเป็น Full-Funnel Impact ที่เชื่อมโยงการมีส่วนร่วมที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมเข้ากับการขาย และ 54% ของนักการตลาดใช้ Retail Media Networks เพื่อสร้างการมองเห็นให้กับแบรนด์ก่อน แล้วยอดขายก็ตามมา”
นอกจากนี้ AI ยังช่วยปรับกลยุทธ์การสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างโอกาสใหม่และผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนได้ ข้อมูลจากการศึกษาผู้บริโภคกว่า 1,500 แบรนด์ทั่วโลกในปี 2023-2024 พบว่า แบรนด์ที่สร้าง Engagement ได้จริง จะรักษาฐานลูกค้าไว้ได้กว่า 35% ต่อปี
“ยุคที่การแข่งขันรุนแรงและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วการมีลูกค้าไม่สำคัญเท่ากับการรักษาลูกค้าให้รักแบรนด์” ชัชพล กล่าว
Case Study: เจาะลึกเคสจริง ประสบการณ์จริงจากลูกค้าธุรกิจ
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 6](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-6.jpg?x82337)
ยังมีอีกหลายหัวข้อที่น่าสนใจโดยเฉพาะช่วงบ่ายที่นำเคสจริง ประสบการณ์จริงมาแชร์ให้ฟัง อาทิ หัวข้อ Singularity Insights: The Power of Context Clarity ที่ได้ผู้บริหารจาก CP AXTRA, True Corporation, เมืองไทยประกันชีวิต และ เอ้ก ดิจิทัล เล่าถึงพลังของข้อมูลในยุค Hyper-Personalization ซึ่งหนึ่งในความท้าทายคือ แม้แบรนด์จะรู้ว่า ลูกค้าซื้ออะไร ซื้อเมื่อไหร่ แต่กลับไม่รู้ว่า ซื้อทำไม ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการสร้างความเข้าใจลูกค้าแบบ 720 องศา โดยใช้ข้อมูลหลายอุตสาหกรรม เช่น ข้อมูลโทรคมนาคมที่เก็บพฤติกรรมใช้งาน, ตำแหน่ง, และข้อมูลของห้างค้าปลีกที่เก็บเรื่องพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย ช่วยให้เกิด segmentation รูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้แบ่งแค่ตามอายุ แต่ที่ถูกเชื่อมโยงด้วยการมีไลฟ์สไตล์ร่วมกัน, ค่านิยมร่วมกัน และความเต็มใจที่จะใช้จ่ายมากกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งเราขอเรียกกลุ่มนี้ว่า ‘Gen Strong’ ซึ่งเป็น segment ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในอนาคต แต่ยัง พร้อมใช้จ่าย และพร้อมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถแบ่งเป็น segments นี้ย่อยลงไปได้อีกกว่า 50 subsegments เช่น ‘Single Glam’ คนรุ่นใหม่รักสุขภาพ หรือ ‘Silver Strong’ ผู้สูงวัยแอ็กทีฟ ทำให้การเข้าถึงลูกค้ามีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเข้าใจลูกค้ามากขึ้นก็จะสามารถเลือกใช้ยุทธศาสตร์ที่เฉียบคมขึ้น เจาะพื้นที่ เสนอโปรโมชันหรือผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจกว่าเดิม โดยเป้าหมายสูงสุดในการทำตลาดแบบ Segment of One คือการมองลูกค้าเป็นรายบุคคล แล้วใช้ AI และข้อมูลในช่วง Micro-Moments นำเสนอสิ่งที่เหมาะสมในเวลาทีใช่ นั่นหมายความว่า ธุรกิจใดที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลบริบท ไลฟ์สไตล์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้ จะมีโอกาสสร้างการเติบโตได้แบบไม่มีข้อจำกัด
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 7](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-7.jpg?x82337)
หรือหัวข้อ Where Attention Sparks Culture and Drives Commerce through Retail Media Network ที่เน้นย้ำความสำคัญของ Retail Media Network ว่าจะกลายเป็นเครื่องมือที่ปฏิวัติวงการโดยมี AI เป็นตัวขับเคลื่อน โดยมีองค์กรชั้นนำอย่าง Google Unilever และ Amplifi (Thailand) มาร่วมแสดงความคิดเห็น
และได้ข้อสรุปว่า ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการมากกว่าข้อมูลทั่วไปแต่คาดหวัง Intelligence ที่ผ่านการวิเคราะห์และแปลความแล้วว่าต้องการอะไรและเมื่อไหร่ ทำให้ Data และ AI กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญ โดย Retail Media Network สื่อที่สามารถเชื่อมโยงทุกจุดสัมผัสของผู้บริโภคเข้าด้วยกันอย่างครบถ้วน และยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Brand Culture และ Brand Commerce ให้เกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งการผสาน Retail Media Network, AI และ First-Party Data จากผู้ค้าปลีกเข้าด้วยกัน ช่วยให้แบรนด์สามารถทำ Hyper-Personalization ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจควบคู่ไปด้วย
ในช่วงนี้ยังมีการนำเสนอแนวคิดใหม่ โดยแนะนำแพลตฟอร์ม CreativeFusion ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง EGG Digital และ Google เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง The Right Message หรือข้อความที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังได้มีการแนะนำ AI Expert Robotics สำหรับการทดลองใช้งานบริเวณหน้าชั้นวางสินค้า เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมความสามารถในการสื่อสารผ่าน Avatar ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อนาคตของ Retail Media สำหรับแบรนด์ ไม่ใช่แค่การซื้อสื่อเพื่อยิงโฆษณาอีกต่อไป แต่คือโอกาสในการสร้าง ‘Brand Experience’ ที่ผู้บริโภคจับต้องได้จริง
สิ่งต่อมาคือ Agentic AI ที่ไม่แค่ช่วยทำงานแต่จะเข้ามาอยู่ในทุกกระบวนการทางการตลาดตั้งแต่เก็บข้อมูล คิดไอเดีย วิเคราะห์ตลาดไปจนถึงวัดผล สิ่งที่แบรนด์และเอเจนซีต้องมีความเร็วในการปรับตัวและความร่วมมือเชิงกลยุท์ระหว่างแบรนด์ ผู้ค้าปลีก และเอเจนซี เพราะนี่คือก้าวสำคัญสู่อนาคตของการตลาด ที่ Culture และ Commerce เดินไปพร้อมกัน
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 8](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-8.jpg?x82337)
AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่าง Media และ Commerce เข้าด้วยกัน บนเวที Where Media Meets AI Intelligence: Driven the Future of Commerce ได้ชวน 3 องค์กรชั้นนำ อย่าง L’Oréal, WPP Media และ Meta มาร่วมฉายภาพอนาคตการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI
สิ่งที่ทั้ง 3 องค์กรเห็นเหมือนกันคือ เส้นทางการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ปัจจุบันผู้ซื้อเห็นคอนเทนต์หรือไลฟ์แล้วกดซื้อทันที โดย WPP Media มองว่าการวางแผนสื่อต้องเปลี่ยนไปใช้ Data และ AI เพื่อค้นหา ‘ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด’ เพื่อสร้างความต้องการซื้อได้อย่างแม่นยำ
เครื่องมือที่จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพคือ AI ด้าน Meta กล่าวว่า หัวใจสำคัญที่จะทำให้ AI สร้างการวัดผลที่จับต้องได้ จะต้องอาศัยการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ Omnichannel ซึ่งสามารถสร้าง Return on Ad Spend (ROAS) ได้ดีขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับแคมเปญทั่วไป
ด้าน L’Oréal ยกตัวอย่างแคมเปญ Beauty for Each ด้วยการใช้ข้อมูลค้นหากลุ่มลูกค้าใหม่เพื่อออกแบบแคมเปญที่สามารถส่งสารแบบ Personalize ได้ตรงจุด ถูกที่ ถูกเวลา และที่สำคัญคือ เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคแต่ละคนมากที่สุด
ต่อไปนี้นักการตลาดจะใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์กลยุทธ์และไอเดียมากขึ้น สนุกขึ้น แล้วส่งหน้าที่ให้ AI ทำงานที่ซับซ้อน และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระดับบุคคลในสเกลที่ใหญ่ขึ้น
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 9](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-9.jpg?x82337)
หัวข้ออย่าง Next-Level Retail: AI-Powered Dynamic Context in Action ที่มาตอกย้ำว่า ‘ความเร็ว’ คืออาวุธสำคัญ ‘ปลาใหญ่กินปลาเล็ก’ อาจไม่จริงอีกต่อไป แต่เป็น ‘ปลาเร็วเท่านั้น ที่จะเข้าเส้นชัยก่อน’ ที่ได้องค์กรอย่าง CP AXTRA, Unilever และ Nestlé มาแบ่งปันประสบการณ์
ประเด็นสำคัญของหัวข้อนี้คือ บทบาทสำคัญของ AI ในธุรกิจค้าปลีกคือการทำให้ธุรกิจมีความ ‘Real-Time’ ยิ่งข้อมูลลูกค้ามีจำนวนมหาศาล ความคาดหวังเปลี่ยนบริบทการตลาดใหม่ สิ่งที่ AI จะเข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็น Real-Time Feedback การเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชันได้อย่างรวดเร็ว การใช้ AI ช่วยจัด Store Cluster และจัดกลุ่มสินค้าให้ตรงกับลักษณะลูกค้า เช่น กลุ่มที่อยู่อาศัย หรือกลุ่มสำนักงาน หรือหา Optimization ในการทำโปรโมชัน และเข้าใจ Budget ที่แท้จริงในการลงทุน
AI ยังช่วยให้เข้าใจ Assortment Plan, Shelf Size, Shelf Type และ โครงสร้างของสินค้าในแต่ละร้านค้า วิเคราะห์โอกาสจากข้อมูลตลาดและแนวโน้มเพื่อสร้างสินค้าที่ไม่เคยมีมาก่อน ไปจนถึงใช้ Social Listening และ AI วิเคราะห์เทรนด์หลักๆ เพื่อพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ หา Promotion Modeling และอ่านคอมเมนต์ลูกค้า ในอนาคต AI จะไม่ได้มีบทบาทแค่การวิเคราะห์ แต่จะทำหน้าที่เป็น Collaborator หรือ Co-Pilot ที่สามารถให้คำแนะนำและช่วยเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันจะเข้ามาอยู่ในกระบวนการแบบ End-to-End
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 10](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-10.jpg?x82337)
ขณะเดียวกัน Workshop สุดเข้มข้นที่นำกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและเทคโนโลยีจริงมาให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น เรียนรู้ PromoMatter เครื่องมือปลดล็อกการวัดประสิทธิภาพโปรโมชันให้แม่นยำและเข้าใจง่าย พร้อมวิธีใช้ข้อมูลเพื่อประเมินและจัดอันดับโปรโมชันอย่างมีประสิทธิภาพ
ทลายข้อจำกัดด้านงบประมาณและทีมงานด้วยเครื่องมือ MarTech พร้อมทดลองใช้งาน EGG One Platform ที่รวบรวมข้อมูลลูกค้า การบริหารแคมเปญ และระบบอัตโนมัติไว้ในที่เดียว รวมถึง MediaFusion แพลตฟอร์มมีเดียอัจฉริยะที่สามารถค้นหาอินไซท์เชิงลึก กำหนดเป้าหมายอย่างชาญฉลาด พร้อมวัดผลได้อย่างทันท่วงที ไปจนถึงการ Business Wellness Check ปรึกษาปัญหาธุรกิจฟรีกับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและเทคโนโลยี
![ถอดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยุค AI First ด้วยมุมมองและเครื่องมือขุมพลังใหม่ จากงาน ‘EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier’ [Advertorial] 11](https://thestandard.co/wp-content/uploads/2025/11/ai-first-business-strategy-11.jpg?x82337)
ดร.ธีรเดช กล่าวทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของ เอ้ก ดิจิทัล ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่คือการสนับสนุนให้ธุรกิจและบุคลากรในไทยเติบโต ช่วยให้ภาคธุรกิจและประเทศไทยสามารถปรับตัวได้ในโลกดิจิทัลได้ มอง AI เป็นการหลอมรวมระหว่างข้อมูล วัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการค้าเพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในสมรภูมิดิจิทัลแห่งอนาคตนี้”


