เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q66 ของ บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 11 สิงหาคม 2566
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับลดลง 3.28%MoM อยู่ที่ระดับ 17.70 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 3.74%MoM อยู่ที่ระดับ 1,496.89 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 2Q66:
2Q66 คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนใน 2Q65 และ 1Q66 ประเมินกำไรปกติ 2Q66 ของ AH ได้ที่ 321 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY แต่ลดลง 46%QoQ ทั้งนี้แม้ว่าส่วนแบ่งกำไรจะลดลงเพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) แต่เชื่อว่า AH จะรายงานกำไรปกติเติบโต YoY โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจ OEM ที่เติบโตเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ในขณะที่กำไรปกติจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
สมมติฐานสำคัญ:
- ยอดขายของธุรกิจ OEM (75% ของยอดขายรวม) อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%YoY หลักๆ เกิดจากการผลิตตามคำสั่งซื้อใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง (เช่น เพลารถกระบะ Battery Shield และชิ้นส่วนประกอบตัวถัง) แต่ลดลง 10%QoQ
- ยอดขายของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (25% ของยอดขายรวม) อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%YoY แต่ลดลง 17%QoQ
- อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.2% เพิ่มขึ้นจาก 10.1% ใน 2Q65 แต่ลดลงจาก 12.6% ใน 1Q66 สอดคล้องกับแนวโน้มยอดขาย
- ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 65 ล้านบาท ลดลง 47%YoY และ 47%QoQ เพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)
ทั้งนี้ พรีวิวผลประกอบการ 2Q66 บ่งชี้ว่ากำไรปกติ 1H66 จะคิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%YoY การเข้าลงทุนในบริษัท Advanced Vehicle Engineering Global Sdn. Bhd. (Avee) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติมาเลเซีย ในสัดส่วน 60% และมีบริษัทย่อยของ Proton Holdings Berhad (ยี่ห้อรถยนต์แห่งชาติของมาเลเซีย) ถือหุ้นส่วนที่เหลืออีก 40% จะหนุนให้ประมาณการรายได้ปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย ~2%
อย่างไรก็ดี ในอนาคต มองว่าการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Proton จะช่วยขยายฐานการดำเนินงานของ AH ในมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญในอาเซียน
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ปัจจุบันหุ้น AH เทรดที่ PE ปี 2566 ระดับ 6.6 เท่า ต่ำกว่า SAT ที่ 7.8 เท่า และ STANLY ที่ 8.1 เท่า ขณะที่ประเมินเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวด 1H66 ของ AH ได้ที่ 0.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.2%
InnovestX Research มองว่า Valuation ที่ไม่แพงและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีจะช่วยป้องกัน Downside ของราคาหุ้น และชอบที่ AH มีกิจการอยู่ในฐานการผลิตที่สำคัญของโลก: ประเทศไทย โปรตุเกส และจีน และจะได้รับประโยชน์จากยอดขาย EV ที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 44 บาทต่อหุ้น อิงกับ PE 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงที่กำไรของ AH เติบโตตามปกติ)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ 2. การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก และ 3. ข้อพิพาททางกฎหมาย