สจวร์ต แรมเซย์ หัวหน้าผู้สื่อข่าวสำนักข่าว Sky News ของอังกฤษ รายงานบรรยากาศล่าสุดที่ด้านนอกของสนามบินนานาชาติฮามิด การ์ไซ ในกรุงคาบูล เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) ซึ่งเต็มไปด้วยประชาชนชาวอัฟกานิสถานจำนวนมากที่ไปต่อแถวเฝ้ารอ แม้จะเผชิญความลำบากจากแสงแดดที่แผดเผา หลายคนต้องรออยู่ในท่อที่เต็มไปด้วยน้ำเสียลึกเท่าหัวเข่า และเฝ้าอดทนมานานหลายวันด้วยอาหารและน้ำที่มีน้อยนิด ด้วยความหวังเพียงอย่างเดียวคือการได้อพยพออกจากประเทศ
แรมเซย์รายงานบรรยากาศจากประตูสนามบิน บริเวณจุดอพยพของกองทัพอังกฤษ ซึ่งมีกำแพงและแนวลวดหนามกั้นอยู่ พบว่ามีชาวอัฟกันจำนวนมากกำลังปักหลักรอโอกาสที่จะได้อพยพ แต่บรรยากาศในตอนนี้แตกต่างไปจากวันก่อนๆ เนื่องจากเสียงพูดคุย ตะโกน และร้องขอความช่วยเหลือ จากอีกฟากฝั่งกำแพง ค่อนข้างเงียบสงบมากกว่าปกติ สาเหตุหลักคาดว่าเนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่รับรู้ว่าโอกาสที่จะได้อพยพออกจากประเทศไปยังที่ปลอดภัยนั้นกำลังเลือนหายไป พร้อมกับเส้นตายในการอพยพและถอนทหารของกองทัพสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ขณะเดียวกัน ชาวอัฟกันอีกกลุ่มที่กำลังต่อแถวยาวเพื่อรอตรวจเอกสารเดินทาง ยังคงมีความหวังที่จะได้รับการอพยพ เพื่อรอดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้ายภายใต้การปกครองของตาลีบัน
บรรยากาศในผู้คนเหล่านี้เต็มไปด้วยความกังวลและตื่นตระหนก และต้องการเพียงให้เจ้าหน้าที่กองทัพอังกฤษหรือใครสักคนที่มีอำนาจสั่งการ เข้ามาตรวจเอกสารเพื่อให้พวกเขาและครอบครัวได้ผ่านเข้าไปในสนามบิน
แต่ความหวังนั้นยังไม่เกิดขึ้น และอาจไม่เกิดขึ้น และหากวินาทีของเส้นตายในการถอนทหารที่กำลังนับถอยหลังย่างกรายมาถึง หมายความว่าชีวิตของพวกเขาจะต้องกลับไปอยู่ใต้เงามืดของรัฐบาลตาลีบันอีกครั้ง
สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบผู้อพยพในจุดนี้ แรมเซย์บรรยายว่า ทหารจะเริ่มจากการตรวจเอกสารเดินทาง และหากใครมีเอกสารถูกต้องจะได้รับโอกาสให้ไปต่อแถวเพื่อรอพิจารณาอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิ์ในการอพยพ เนื่องจากยังมีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธ
ขณะที่กระบวนการตรวจสอบเอกสารเดินทางนั้นลดความตึงเครียดลง เนื่องจากกลุ่มตาลีบันไม่ให้ประชาชนเข้าไปยังพื้นที่ต่อแถวรอพยพ พร้อมทั้งส่งกองกำลังพิเศษติดอาวุธหนักครบมือเข้าควบคุม
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามประกาศล่าสุดของซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตาลีบัน ที่แถลงวานนี้ ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้ชาวอัฟกันคนใดอพยพลี้ภัยออกนอกประเทศอีกต่อไป และจะไม่ขยายเวลาเส้นตายในการอพยพ แต่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางไปยังสนามบินได้ พร้อมทั้งเตือนกองทัพสหรัฐฯ ให้ถอนกำลังตามกำหนดเส้นตาย วันที่ 31 สิงหาคม
“ถนนที่ไปสนามบินถูกปิดแล้ว ชาวอัฟกันจะไม่สามารถใช้ถนนเส้นนั้นเพื่อไปยังสนามบินได้ แต่ชาวต่างชาตินั้นได้รับอนุญาตให้ใช้ถนนเส้นนั้นไปสนามบิน เราไม่อนุญาตให้อพยพชาวอัฟกันอีกต่อไป และเราก็ไม่พอใจกับเรื่องนี้เช่นกัน” มูจาฮิดกล่าว พร้อมชี้ว่าแพทย์และนักวิชาการชาวอัฟกันไม่ควรหนีออกจากประเทศหรือไปชาติตะวันตก และควรทำงานในสิ่งที่ตนเองถนัดอยู่ภายในอัฟกานิสถาน
ในส่วนของทหารอังกฤษที่ประจำการในสนามบินนั้นล้วนเหน็ดเหนื่อยในการปฏิบัติภารกิจอพยพ เนื่องจากพวกเขาต้องทำหน้าที่เฝ้าระวังแทบจะตลอดเวลา และมีเวลาพักเพียง 2-3 ชั่วโมง โดยหลายนายทำงานต่อเนื่องมาแล้ว 2 วัน 2 คืน
“สำหรับหลายๆ คนในยุคใดก็ตาม คงมีไม่กี่คนที่จะเคยเห็นภาพแบบนี้ และเป็นอีกครั้งที่มันถูกขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมายอย่างแท้จริง พวกเขา (ทหาร) มุ่งมั่นต่อหน้าที่อย่างเต็มที่ และเราจะดูต่อไปจนจบ” พ.ท. เดวิด มิดเดิลตัน แห่งกองทัพอังกฤษกล่าว ขณะที่กระบวนการอพยพยังดำเนินต่อไป และชาวอัฟกันจำนวนมากก็ยังไม่ย่อท้อหรือหมดหวัง
เนื่องจากความหวังนั้น ‘เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเหลืออยู่’
ภาพ: Photo by Sayed Khodaiberdi Sadat/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: