ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทีมชาติไทยลงสนามพบกับสิงคโปร์ในเกมที่ 4 และเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มบี โดยเกมนี้ไทยต้องการ 3 คะแนนเพื่อผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
โดยเกมนี้รายชื่อผู้เล่นไทยส่ง ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), มิก้า ชูนวลศรี, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (กัปตันทีม), พรรษา เหมวิบูลย์, กรกช วิริยอุดมศิริ, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, นูรูล ศรียานเก็ม, ศุภชัย ใจเด็ด, อดิศักดิ์ ไกรษร ลงสนามเป็นตัวจริง พร้อมกับแฟนบอลจำนวน 29,716 คน เข้าร่วมชมการแข่งขันในวันนี้
เกมช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำอะไรกันได้ จนกระทั่งในนาทีที่ 12 ทีมชาติไทยได้ลูกเตะมุมจากจังหวะเล่นสั้นของ กรกช วิริยอุดมศิริ ที่เปิดบอลเข้าหัว พรรษา เหมวิบูลย์ โหม่งเข้าประตูพาทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 23 ไทยมาได้ประตูที่สองนำห่างจากจังหวะที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ วางบอลยาว แนวรับสิงคโปร์สกัดไม่ดีมาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด แต่งหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาผ่าน ฮัสซัน ซันนี เข้าไปให้ช้างศึกหนีไปเป็น 2-0 และเป็นประตูที่สามของเจ้าอาร์มในทัวร์นาเมนต์นี้
ครึ่งหลังแม้ว่าสิงคโปร์จะปรับมาเดินเกมรุกโยนบอลใส่ไทยหลายจังหวะ แต่ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 89 ไทยได้จังหวะสวน สรรวัชญ์ เดชมิตร เปิดบอลให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยิงเข้าประตู ไทยนำห่าง 3-0 ก่อนจะจบการแข่งขันที่สกอร์นี้
ส่งผลให้ทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มบี ผ่านเข้าไปพบกับมาเลเซีย โดยจะบุกไปเยือนที่สนามบูกิต จาลิล มาเลเซีย เกมแรกในวันที่ 1 ธันวาคม และกลับมาเปิดบ้านสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์