วันนี้ (11 ตุลาคม) พล.อ.อ. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงบอสหมอเอก ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งจากการตรวจสอบไม่ได้เป็นแพทย์จริง ว่า แพทยสภาเป็นหน่วยงานเก็บข้อมูลความเป็นแพทย์ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ 24 ชั่วโมง ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบแสดงว่าอาจจะยังไม่ได้ลงทะเบียน หรืออาจจะเป็นแพทย์จริงแต่มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องสอบถามไปที่เจ้าตัวก่อนจะดำเนินคดีหมอปลอม
แต่คำว่าหมอ ไม่ได้มีแต่แพทย์ แต่ยังมีทันตแพทย์ หมอกายภาพบำบัด หรือหมอแพทย์แผนไทย แต่แพทย์ด้านการรักษาจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม ต้องเป็นนายแพทย์หรือแพทย์หญิง ขบวนการที่เกิดขึ้นที่ไม่ใช่แพทย์แล้วมาแอบอ้าง ต้องเริ่มต้นจากมีผู้เสียหายหรือผู้ร้องเรียน ใครที่ได้รับความเสียหายจากการแอบอ้าง ให้มาแจ้งแพทยสภาและแจ้งตำรวจ จึงจะสามารถดำเนินคดีได้ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม
เลขาธิการแพทยสภาย้ำว่า แพทยสภาจะดำเนินการเอาผิดได้ กรณีที่เป็นแพทย์จะมีอำนาจในการถอนทะเบียน แต่กรณีคนที่ไม่ใช่แพทย์จะเอาผิดได้ตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งมีโทษจำคุกและโทษปรับ รวมทั้งเป็นฐานความผิดทางอาญา โดยคนที่จะแจ้งความคือผู้เสียหาย โดยจะมีความผิดฐานแอบอ้างกระทำให้เกิดความเสียหาย
เลขาธิการแพทยสภายังกล่าวว่า การที่แพทยสภาจะร่วมลงโทษได้คือใช้ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แต่แพทยสภาจะเป็นต้นเรื่องไปถอนใบประกอบวิชาชีพเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีใบประกอบวิชาชีพ เหมือนขับรถไม่มีใบขับขี่ หากมีใบขับขี่สามารถเพิกถอนได้ ต้องแจ้งให้ตำรวจจับ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการใช้ความน่าเชื่อถือว่าเป็นแพทย์ให้ประชาชนมาลงทุนในดิไอคอนกรุ๊ป ต้องใช้กฎหมายบ้านเมืองเอาผิด เพราะกฎหมายการแพทย์ใช้ได้เฉพาะการรักษา ถ้าการหลอกลวงเป็นเรื่องจริง ต้องดำเนินคดีบ้านเมือง พร้อมย้ำว่าคนที่ถูกหลอกลวงให้ไปแจ้งความดำเนินคดี โดยแพทยสภาจะเข้าไปร่วมดำเนินการและฟ้องในคดีให้ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วไม่ใช่แพทย์ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานกับแพทยสภาเองโดยอัตโนมัติ