×

ปลัด สธ. ยืนยัน เตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วย เผยกว่าร้อยละ 50 เป็นผู้ป่วยสีเขียว ชี้หากไม่ปลดโควิดพ้น UCEP อาจดันเป็นโรคประจำถิ่นไม่ได้

โดย THE STANDARD TEAM
23.02.2022
  • LOADING...
เตียงผู้ป่วย

วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งชะลอและทบทวนการปรับโรคโควิดออกจาก UCEP หรือสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐบาลเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียดว่าเหตุใดจึงต้องชะลอออกไป ขอให้ไปถามทาง ครม. เนื่องจาก สธ. ได้เสนอตามที่คณะกรรมการของ สธ. ได้พิจารณา 

 

ส่วนเหตุผลทำไมจึงต้องมีการปรับรูปแบบ ที่ผ่านมาเราเพิ่งรู้จักโควิดและสภาพการระบาดค่อนข้างรุนแรง มีการป่วยตายจำนวนมากในช่วงแรก เพราะพื้นที่กรุงเทพมหานครทาง สธ. ไม่ได้ดูแล เตียงส่วนใหญ่จะเป็นของมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน และเตียงของภาครัฐไม่พอ จึงมีการประกาศให้เป็นโรคฉุกเฉิน เมื่อมีการติดเชื้อก็เข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปตามสิทธิ แต่จริงแล้วคนไทยกว่าร้อยละ 99 มีสิทธิอยู่แล้ว เพียงแต่หากมีการยกเลิก UCEP ก็ไปรักษาตามสิทธิ แต่ขณะนี้ล่วงเลยมา 2 ปีกว่าแล้ว ความรุนแรงของโรคก็ลดลง การเจ็บป่วยร้ายแรงก็ลดลง ซึ่งจากที่ทาง สธ. เข้าไปดูเตียงพบว่า กว่า 50% ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียว ส่วนผู้ป่วยเหลืองและแดงใช้ไม่ถึง 20% ของจำนวนเตียงที่มีอยู่ ก็คิดว่าน่าจะมีเตียงที่เพียงพอ ซึ่งข้อเสนอของ สธ. ยืนยันว่าผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงยังคงรักษาในระบบ UCEP ได้ แต่เพื่อความรอบคอบและปลอดภัยจึงมีคำสั่งให้ สธ. กลับไปทบทวน ส่วนจะมีการเสนอกลับมาเมื่อใดตนยังไม่ทราบ เพราะเพิ่งจะนำกลับไปเมื่อวานและยังไม่ได้นัดประชุม 

 

พร้อมกันนี้ นพ.เกียรติภูมิมองว่าการที่ถูกเลื่อนออกไปจะไม่ส่งผลกระทบอะไร และผู้ป่วยไม่ได้นอนเตียงเป็นเพราะการบริหารจัดการมากกว่า ซึ่งวันนี้ตนจะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รับทราบถึงสถานการณ์เตียงในปัจจุบัน 

 

ส่วนเหตุปัจจัยที่จะนำโควิดออกจาก UCEP เกี่ยวกับปัจจัยเรื่องงบประมาณหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิยืนยันว่าไม่ได้พูดกันถึงเรื่องงบประมาณ เนื่องจากเป็นแผนที่จะทำให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งในต่างประเทศก็ดำเนินการไปเยอะแล้ว และขณะนี้เองก็ยังไม่ได้มีการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกลไก หากโควิดยังเป็นโรคฉุกเฉินอยู่ก็จะเป็นโรคประจำถิ่นไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันเองก็มีการผลักดันให้รักษาตัวเองที่บ้านหรือ Home Isolation หรือ Community Isolation ซึ่งเป็นการดูแลมากกว่าการรักษา และผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น เพราะประเทศไทยไม่ได้มีโควิดโรคเดียว โรคอื่นก็ยังมีอีกมากก็ต้องดูแลรักษากันไป 

 

ส่วนจะต้องมีการประสานให้โรงพยาบาลสนามกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งหรือไม่นั้น นพ.เกียรติภูมิระบุว่า ขณะนี้ยังมีปริมาณเตียงเพียงพอ ยืนยันว่าแผนการรองรับระบบ Home Isolation และ Community Isolation ยังเพียงพออยู่ โดยขอให้ไปย้อนดูในพื้นที่ต่างจังหวัดและระบบ Community Isolation ในกรุงเทพมหานครก็ยังดีอยู่ ซึ่งคนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่ในหอพักและบ้านพัก ทำให้เข้าระบบ Home Isolation ไม่ได้ จะมีข้อเสนอให้เข้าระบบ Hospitel ซึ่งก็อยู่ในข้อเสนอ UCEP ครั้งที่แล้ว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising