เป็นไปตามคาดว่าผลงานซิงเกิลใหม่ของ Adele ในรอบเกือบ 6 ปีอย่างเพลง Easy On Me ที่ปล่อยออกมาช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) สามารถสร้างสถิติมากมายบนหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จของเธออีกครั้ง แม้มารอบนี้กับอัลบั้มใหม่ ‘30’ เธอจะก้าวเข้าสู่ยุคเพลงสตรีมมิงอย่างเต็มตัว ซึ่งอุตสาหกรรมดนตรีได้เปลี่ยนแปลงไปหลายทิศทางตั้งแต่ครั้งก่อนที่เธอออกอัลบั้ม ‘25’
สถิติแรกที่เพลง Easy On Me สามารถทำได้คือการเป็นเพลงที่มีการสตรีมมากสุดในประวัติศาสตร์สำหรับ 24 ชั่วโมงแรกที่ปล่อยออกมาทาง Spotify โดยแม้ทางแพลตฟอร์มยังไม่ได้เผยตัวเลขที่แน่ชัด แต่ก็คอนเฟิร์มออกมาแล้ว พร้อมทำให้ Adele ทุบสถิติเดิมของ BTS กับเพลง Butter ที่ทำไว้ 20.9 ล้านครั้งตอนปล่อยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการรายงานว่าแค่ 1 ชั่วโมงแรกที่ Easy On Me ปล่อยออกมาก็มีการฟังไปแล้ว 888,000 ครั้งรอบโลกบน Spotify
นอกเหนือจาก Spotify แล้ว ทาง Amazon Music เพลง Easy On Me ก็สร้างสถิตินี้เช่นกัน ส่วนทาง YouTube กับตัวมิวสิกวิดีโอ แม้ Adele จะไม่ได้ทุบสถิติใหม่ แต่สำหรับ Easy On Me ก็กลายเป็นมิวสิกวิดีโอของเธอที่ทำยอดวิวมากสุดใน 24 ชั่วโมงแรกที่ปล่อยออกมากับราว 40.1 ล้านวิว เอาชนะมิวสิกวิดีโอเพลง Hello ในปี 2015 ที่ทำไป 27.7 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงแรก โดยเราต้องรอกันสัปดาห์หน้า พอแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Apple Music จะออกมาประกาศตัวเลขต่างๆ ของเพลง Easy On Me แต่เชื่อว่าสำหรับชาร์ตเพลงทั้ง Billboard Hot 100 ในอเมริกาและ Official Charts ของอังกฤษ การขึ้นอันดับ 1 ก็เป็นอะไรที่น่าจะเกิดขึ้นแน่นอน
อีกหนึ่งเรื่องราวที่จะสร้างความตื่นเต้นให้แฟนเพลงของ Adele ทั่วโลกก็คือ เธอได้บอกในสัมภาษณ์รายการวิทยุ Hits Radio Breakfast Show ของประเทศอังกฤษว่า เธอสนใจที่จะกลับมาเวิลด์ทัวร์กับอัลบั้ม ‘30’ หรือมีโชว์แบบระยะยาวที่ลาสเวกัส แต่เธอบอกว่าครั้งนี้คงไม่ยาวเท่าทัวร์ครั้งก่อน ‘Adele Live 2016’ ที่เธอเล่นไปกว่า 120 โชว์ทั่วโลก ส่วนช่วงเวลาที่จะกลับมาทัวร์ก็ยังไม่รู้ เพราะตอนนี้กฎระเบียบของแต่ละประเทศเกี่ยวกับการจัดคอนเสิร์ตก็แตกต่างกันหมดเพราะสถานการณ์โควิด แต่การที่ Adele บอกว่าเธอจะกลับมาเล่นคอนเสิร์ตแน่นอนก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และทำให้หลายคนโล่งใจ เพราะพอจบทัวร์ครั้งก่อนเธอบอกว่าอาจไม่ทัวร์อีกแล้วในชีวิต เพราะเธอรู้สึกอึดอัดกับตารางการเดินทาง และรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับเธอ
ภาพ: Adele
อ้างอิง: