วันนี้ (20 มิถุนายน) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์เรื่อง คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้เกิดการคดโกงงบประมาณของประเทศ มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้ยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ตัดบทลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และกรรมาธิการที่แทรกแซงการจัดทำงบประมาณประจำปี ตามมาตรา 144 และตัดข้อห้ามมิให้ ส.ส. และ ส.ว. แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ตามมาตรา 185 นั้น
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า การแก้ไขดังกล่าวจะทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศล้มเหลว เพราะการตัดบทลงโทษดังกล่าวเปิดโอกาสให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถสอดแทรก-ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่เป็นฝ่ายบริหารได้โดยง่าย ซึ่งจากที่ผ่านมางบประมาณแผ่นดินได้ถูกจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรม มีการคดโกงเกิดขึ้นอย่างมากมายจากการสอดแทรกใช้อำนาจหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคพลังประชารัฐได้ยื่นขอ นอกจากจะเปิดทางให้เกิดการคดโกงแล้ว ยังขัดต่อหลักธรรมาภิบาล และการมีผลประโยชน์ทับซ้อนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่
การต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชันต้องชัดเจนทั้งหลักการและวิธีการ การมีมาตรการที่ครอบคลุม ปฏิบัติได้จริงจัง จึงจะพิสูจน์ความเป็น ‘รัฐธรรมนูญปราบโกง’ และวาระแห่งชาติในการต่อต้านคอร์รัปชันได้ การลดทอนให้เหลือเพียงหลักการลอยๆ ไม่มีแนวปฏิบัติปราศจากบทลงโทษ แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจเด็ดขาดในการปราบปรามคอร์รัปชัน ทำให้คนโกงย่ามใจ คนไทยทั้งชาติอยู่ในสภาวะของการ ‘จำยอมกับการโกงของผู้มีอำนาจ’ อีกครั้งหนึ่ง
คนไทยต้องการเห็นการเมืองที่สูงด้วยจริยธรรม ต้องการรัฐธรรมนูญที่ศักดิ์สิทธิ์จริงใจ ต้องการเห็นประเทศชาติมีการพัฒนาอย่างโปร่งใสเป็นธรรม และที่สำคัญ ต้องการหลุดพ้นจากวงเวียนการคดโกงของนักการเมือง
ข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองประการดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอคัดค้านการเสนอแก้ไขรัฐธรรมทั้งสองมาตราดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และขอเชิญชวนให้ประชาชน สื่อมวลชน และทุกภาคส่วนของสังคมร่วมผนึกกำลังในการต่อต้านครั้งนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับงบประมาณแผ่นดินและผลกระทบที่เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล