วันนี้ (12 มีนาคม) ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่ามาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 คณะกรรมการวินิจฉัยฯ จึงได้พิจารณาและกำหนดแนวทางให้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์กรณีวงเงินกำหนดการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตงานหรือรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะ และระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ดังนี้
1. การนำร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมได้กำหนดวงเงินไว้ที่ 5 แสนบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้เป็นดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะให้มีการเผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการหรือไม่ก็ได้ ปรับเป็นวงเงิน 5 แสนบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
2. การเผยแพร่ประกาศและเอกสารโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ซึ่งจากเดิมระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารของการซื้อหรือจ้างแต่ละครั้งจะกำหนดตามวงเงินของการซื้อหรือจ้าง ให้ปรับเป็นเผยแพร่ประกาศและเอกสารของการซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป จำนวนวันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ (ทุกวงเงิน) โดยให้คำนึงถึงระยะเวลาที่ผู้ประกอบการสามารถจัดเตรียมเอกสารเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
3. การจ้างที่ปรึกษาและการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป จากเดิมที่หน่วยงานของรัฐต้องเผยแพร่ประกาศและเอกสารการจ้างที่ปรึกษาเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ ให้ปรับเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ
“มาตรการฯ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับกับการจัดซื้อจัดจ้างฯ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างฯ ด้วยเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีความต่อเนื่องและลดข้อจำกัดด้านระยะเวลา โดยยังคงคำนึงถึงหลักการความโปร่งใสและตรวจสอบได้ตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 นอกจากนี้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนปีเดียว ให้หน่วยงานของรัฐเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนปีเดียวที่เป็นการจัดหาพัสดุที่มีวงเงินต่อรายการไม่เกิน 2 ล้านบาทให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2563”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์