แม้ในการเปิดตัวนโยบาย บัตรประชารัฐ 700 บาท ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้เป็นทั้งพี่ใหญ่ ผู้ชี้นำทิศทางของกลุ่มสามมิตร จะยืนขนาบข้าง ‘พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างเหนียวแน่น ขนานไปกับ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายทุนใหญ่ของกลุ่ม
ทว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของสมศักดิ์ยังมาไม่ถึงในเวลานี้
สมศักดิ์ยังรอ ‘ข้อมูลใหม่’ อยู่เสมอ ตัวเขาเองไม่เร่งรีบ เหมือนที่ได้ประกาศไว้แล้วว่า ‘เดือนถึงเดือนครึ่ง’ ยังตัดสินใจทัน
เมื่อ ‘สมศักดิ์’ และ ‘สุริยะ’ ยังยืนรายล้อมรอบ ‘ประวิตร’ จึงเป็นภาพที่ทุกฝ่ายการเมืองเก็บรับไปเป็นปัจจัยในการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งในอนาคต
เพราะที่เป็นมาอยู่เสมอคือความสามารถของสมศักดิ์ในการอ่าน ‘ทิศ-ทางการเมือง’ จนสามารถนำพาตัวเองและพวกพ้องไปอยู่ในวงอำนาจได้อยู่เสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- คอลัมน์พิเศษ PEOPLE IN POLITICS
- อดีตของปัจจุบัน ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ กับ 13 ปี ในวงอำนาจประเทศไทย
- ‘สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ในวันที่ก้าวข้ามบ้านหลังเก่า & ปิดประตู 3 ป. ทำการเมืองแบบคนเป็นแม่ ลุยเปิดแพลตฟอร์มสร้างประเทศไทย
- เกาะติดข่าว เลือกตั้ง 2566 ล่าสุด ข้อมูลพรรคการเมือง รายงานสดผลเลือกตั้ง ได้ที่ เว็บไซต์ เลือกตั้ง 2566
ดิน ฟ้า อากาศ
ในวันเกิดของมติชนปีนี้ สมศักดิ์ไปร่วมงานและให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจ สมศักดิ์พูดถึง ‘ดิน ฟ้า อากาศ’ อันเป็นทั้งหลัก-วิธีการ-เป้าหมายในการตัดสินใจทางการเมือง
“ดิน ก็คืออะไรที่อยู่ติดดิน ประชาชน รากหญ้า เขาว่าอย่างไร เขาอยากได้อะไร มันอาจจะถูกจะผิดก็ไม่รู้นะ แต่เขาอยากได้ นี่ที่เป็นสิ่งสำคัญ มันเป็นปัจจัยให้เกิดการที่เขาจะลงคะแนนให้ อาจจะเป็นเพราะว่าดินเป็นอย่างนี้ ผมให้คุณได้บัตรเดียวนะ มันอาจจะเป็นคำพูดที่พูดออกมา
“ฟ้า คืออะไร เราก็ต้องดูพรรคการเมืองที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคไหนที่มีความรู้สึกว่ามันครึ่งๆ กลางๆ จาบจ้วงอะไรต่างๆ เหล่านี้ เราก็ต้องหลีกไปให้ไกล อย่าไปยุ่ง เพราะพี่น้องประชาชนเขาไม่เอาด้วย และเขาไม่ต้องการ เขามีความจงรักภักดี เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์มาแต่เก่าแก่ และทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากมาย เพราะฉะนั้น อย่าไปรื้อเสีย เราต้องดูความจงรักภักดีตรงนี้
“ส่วนอากาศอย่างมติชน อย่างโทรทัศน์ ก็คืออากาศ เพราะข้อมูลข่าวสารที่ออกมาจากสื่อต่างๆ มันเป็นเหมือนอากาศ ถ้าเราดูดิน ฟ้า อากาศ ครบถ้วน วันนี้อากาศก็ยังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่อย่างหนักเลยว่ามันคืออะไร มันใกล้เซ็ตตัวเต็มที่แล้วเราจะตัดสินใจก็ได้ แต่ว่าถ้าเรารอไปอีกเดือน เดือนครึ่ง ผมก็ว่ามันจะง่ายมาก มันจะไม่ผิดเลย”
เมื่ออ่านดิน ฟ้า อากาศของวันนี้ เขาประกาศชัดเจนว่า “วันนี้ก็แค่พลังประชารัฐเป็นรัฐบาล 99% นักการเมืองคนไหนตัดสินใจไม่ถูกก็พิจารณาพลังประชารัฐ ผมพูดแบบนี้มาตลอด”
ญาติทางการเมือง
ปรากฏการณ์เหยียบ ‘บ้านใหญ่ราชบุรี’ ของ ‘ประวิตร’ ถูกคิดมาอย่างดี ทั้งการลาคณะรัฐมนตรีไปทำให้บ้านใหญ่รู้สึกถึงความสำคัญ ทั้งการไปก่อนน้องชายจะไปเยือน ทั้งเลือกการไปเยือนที่บ้านพักแทนที่เวทีปราศรัยหรือเวทีตรวจราชการ ทั้งหมดแสดงถึงชั้นเชิงทางการเมือง
แต่อีกหนึ่งชั้นเชิงที่ฝากไว้ คือการไปเยือนราชบุรีนั้น เป็นการให้เกียรติ ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ อย่างมีนัยสำคัญ
นั่นเพราะ ‘กำนันตุ้ย-นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา’ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยภรรยา ‘บุญยิ่ง นิติกาญจนา’ ส.ส. ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ คือ ‘ญาติทางการเมืองที่สำคัญ-เคารพรักและเหนียวแน่น’ ของ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ที่หอบหิ้ว-ส่งเสริมกันจนได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัย
เช่นที่ก่อนหน้า กำนันตุ้ยจะลงสมัครเป็นนายก อบจ.ราชบุรี เขาได้ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อันมีเจ้ากระทรวงเป็นสมศักดิ์
ความสามารถของในการอ่าน ‘ดิน ฟ้า อากาศ’ และการมี ‘ญาติทางการเมือง’ ที่เหนียวแน่นเช่นนี้เอง ที่ทำให้ ‘สมศักดิ์’ ไม่เคยพลาดที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวงอำนาจ
เช่นที่ตัวเขาเป็น ส.ส. สุโขทัย 7 สมัย ในนามพรรคกิจสังคม ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2526-2539, ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ 3 สมัยในนามพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งปี 2544, 2548 และ 2549 ไปจนถึง ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์อีก 1 สมัยในนามพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562
พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งมาแล้วอย่างหลากหลาย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในปี 2535 จากนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 3 สมัย
ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลไทยรักไทย
สมศักดิ์เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เขาถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เมื่อว่างงานหน้าฉาก จึงเป็นหลักฉาก-เบื้องหลังที่แข็งแกร่งให้พรรคมัชฌิมาธิปไตย ก่อนรวมกับกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้กำเนิดพรรคภูมิใจไทย พลิกข้างทิ้งทักษิณ หนุนประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จในปี 2551
การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งในปี 2554 กลุ่มมัชฌิมาธิปไตย แยกออกจากพรรคภูมิใจไทย รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคเพื่อไทย และเป็นรัฐบาล ให้หลังจากนั้น 8 ปี กลุ่มสามมิตรรวมเป็นเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตรในเวลานั้นคือ สมศักดิ์-สุริยะ-สมคิด ก่อนสมคิดถอยฉากทั้งจากกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลในเวลาต่อมา
การลงแรงและชัยชนะของกลุ่มสามมิตร จนถึงชัยชนะของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562 ได้รับผลตอบแทนอย่างสำคัญ สมศักดิ์กุมบังเหียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอย่างไร้การสั่นคลอน พร้อมได้รับความไว้วางใจจากบ้านป่ารอยต่อให้เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
การตัดสินใจของสมศักดิ์ในการเลือกสังกัด สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 คงเป็นไปตามหลักที่เขายึดถือ นั่นคือ ‘ดิน ฟ้า อากาศ’ และ ‘ญาติทางการเมือง’ หากทั้งหมดนี้ผนวกรวมเป็น ‘ข้อมูลใหม่-ชัดเจน’ เมื่อใด ย่อมพาตัวเขากลับสู่วงอำนาจได้ทุกครั้งไป