งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Science Advance เปิดเผยว่า คณะนักวิจัยเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ พบอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กตกลงสู่พื้นดินพร้อมกับหิมะในคาบสมุทรอาร์กติก ซึ่งหมายความว่ามนุษย์มีโอกาสสูดไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้ยังไม่มีข้อมูลบ่งชัดว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียงใด
ดร.เมลานี เบิร์กแมน นักนิเวศวิทยาจากสถาบัน Alfred Wegener วัดปริมาณไมโครพลาสติกในหิมะตัวอย่างที่เพิ่งตกจากท้องฟ้า ในหมู่เกาะสวาลบาร์ด ตั้งแต่ปี 2015-2017 ด้วยวิธีการง่ายๆ อย่างการใช้ช้อนซุปหรือขวดแก้วทดลองทางวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างหิมะ และไม่ใช้ถุงมือพลาสติก เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อน
ผลการทดลองพบว่า มีสารปนเปื้อนในหิมะ ประกอบไปด้วยวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถย่อยสลายได้ เช่น ขนสัตว์หรือเซลลูโลสจากพืช นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังพบเศษยางรถยนต์ สารขัดเงา และเส้นใยสังเคราะห์ด้วย โดยในหิมะ 1 ลิตรจะมีไมโครพลาสติก ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 5 มม. ปนเปื้อนกว่า 10,000 ชิ้น
นักวิจัยคาดว่าไมโครพลาสติกเหล่านี้อาจจะถูกลมพัดพามา เนื่องจากมีงานวิจัยในอดีตจากนักวิทยาศาสตร์ในฝรั่งเศส อิหร่าน และจีน เคยพบอนุภาคพลาสติกในอากาศใกล้เมือง รวมถึงงานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ก็พบอนุภาคพลาสติกตกลงจากท้องฟ้าในเทือกเขาพิรินีเช่นกัน
เบิร์กแมนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า เธอคาดว่าจะพบสารเจือปนในหิมะบ้าง แต่การพบอนุภาคพลาสติกจำนวนมากเช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ
ทั้งนี้งานวิจัยพบขยะพลาสติกในมหาสมุทรอาร์กติกมากกว่ามหาสมุทรอื่นๆ ด้วยปริมาณเศษขยะประมาณ 3 แสนล้านชิ้น ขณะที่ทีมของเบิร์กแมนพบไมโครพลาสติกจากตะกอนแห้งที่เก็บจากร่องลึกก้นสมุทรประมาณ 6,000 ชิ้นต่อตัวอย่าง 1 กิโลกรัม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: