หุ้น NVIDIA ร่วง แม้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 รายได้โต 122% สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปดาต้าเซ็นเตอร์
NVIDIA บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัท ซึ่งโตกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นอีก โดยกำไรต่อหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 68 เซนต์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 64 เซนต์ ขณะที่รายรับอยู่ที่ 30,400 ล้านดอลลาร์ มากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้าที่ 28,700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายรับสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 16,600 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 67 เซนต์ เพิ่มขึ้นจาก 6,180 ล้านดอลลาร์ หรือ 25 เซนต์ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์จาก LSEG คาดการณ์ไว้ว่า NVIDIA จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแตะเลข 3 หลักติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 โดยคาดว่าตัวเลขที่ทาง NVIDIAจะเติบโตน่าจะอยู่ที่ 112% ซึ่งแม้จะเป็นการเติบโตในระดับสูง แต่ก็ถือเป็นอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ Goldman Sachs แสดงความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต หลังสามารถโตได้รวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ด้านข้อมูลจาก StreetAccount ระบุว่า ทาง NVIDIAคาดว่าจะมีรายรับประมาณ 32.500 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสปัจจุบัน โดยอิงจากรายรับสุทธิเท่ากับ 31,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ NVIDIAถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถเติบโตและได้รับผลประโยชน์เต็มๆ จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีชิปประมวลผลเป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้นของ NVIDIAเพิ่มขึ้นมากกว่า 150% หลังจากทะยานขึ้นเกือบ 240% ในปี 2023 มูลค่าตลาดของบริษัทเพิ่งทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และ NVIDIAเคยขึ้นแท่นเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในช่วงสั้นๆ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นรองจาก Apple อยู่ก็ตาม
สำหรับปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างมากในปีนี้ก็คือการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ โดยรายรับในธุรกิจศูนย์ข้อมูลของ NVIDIAซึ่งรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI เพิ่มขึ้น 154% จากปีก่อนหน้าเป็น 26,300 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 88% ของยอดขายทั้งหมด นอกจากนี้ยังเกินความคาดหมายของ StreetAccount ที่ 25,240 ล้านดอลลาร์ กระนั้นยอดขายทั้งหมดไม่ใช่ชิป AI ซึ่ง NVIDIAกล่าวเมื่อวันพุธ (28 สิงหาคม) ว่ารายรับที่ 3,700 ล้านดอลลาร์ มาจากผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายของบริษัท
ปัจจุบันลูกค้าจำนวนมากกำลังรอชิป AI รุ่นต่อไปของ NVIDIAที่เรียกว่า Blackwell ซึ่งทาง NVIDIAกล่าวว่า ได้จัดส่งตัวอย่างชิป Blackwell ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ NVIDIAกล่าวว่า อัตรากำไรขั้นต้นลดลงในไตรมาสนี้เป็น 75.1% จาก 78.4% ในช่วงก่อนหน้า แม้ว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นจาก 70.1% ในปีที่แล้ว ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในช่วง “กลางๆ หรือราว 70%” ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตรากำไรทั้งปีที่ 76.4%
อย่างไรก็ตาม NVIDIAคาดว่าชิปรุ่นปัจจุบันที่เรียกว่า Hopper จะเพิ่มการจัดส่งรวมในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า แทนที่จะลดลง
“ความต้องการ Hopper ยังคงแข็งแกร่ง และความคาดหวังของ Blackwell นั้นยอดเยี่ยมมาก” Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIAกล่าวในการแถลงข่าว และตั้งข้อสังเกตว่าอุปทานของ Hopper มีมากขึ้น ในขณะที่ Blackwell ยังขาดตลาด
รายงานระบุว่า ธุรกิจเกมของ NVIDIAเคยเป็นธุรกิจหลักของบริษัทก่อนที่ศูนย์ข้อมูลจะเริ่มต้นขึ้น โดยรายรับจากเกมเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้วเป็น 2,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าประมาณการของ StreetAccount ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์ บริษัทกล่าวว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจัดส่งการ์ดเกม PC ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ SoC คอนโซลเกมที่ NVIDIAจัดหาชิปสำหรับคอนโซลของ Nintendo
ยิ่งไปกว่านั้น NVIDIAยังผลิตชิปสำหรับนักออกแบบกราฟิกระดับไฮเอนด์ เช่นเดียวกับรถยนต์และหุ่นยนต์ โดยธุรกิจกราฟิกของบริษัทเพิ่มขึ้น 20% และรายงานรายได้ที่ 454 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ด้านยานยนต์และหุ่นยนต์ 346 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 344.7 ล้านดอลลาร์
NVIDIA ยังเปิเผยอีกว่า ได้อนุมัติการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์
อ้างอิง:
