×

สำรวจโลกการลงทุนในครึ่งปีหลังก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ และรู้จัก Private Credit อาวุธของนักลงทุนที่ต้องรู้ [ADVERTORIAL]

18.09.2024
  • LOADING...
scb-private-credit

สถานการณ์โลกการลงทุนในครึ่งปีแรกผ่านไปแล้ว มีหลายจุดที่ปรับตัวดีขึ้นและเห็นหนทางการลงทุน แต่ทว่าในครึ่งหลังของปี 2024 ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องจับตา โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่จะสร้างความผันผวนในตลาดอย่างมาก

 

THE STANDARD WEALTH พาไปสำรวจภาพรวมทั้งหมดของโลกการลงทุน และจัดเตรียมกลยุทธ์และอาวุธทางการเงิน เพื่อให้ชนะทุกสถานการณ์จากงาน Exclusive Investment Talk ‘Unlocking Investment Opportunities with Private Credit’ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

 

สถานการณ์โลกการลงทุนล่าสุด

 

ณ ปัจจุบันในปี 2024 สถานการณ์การลงทุนกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ดี โดยผลตอบแทนดาวเด่นยังเป็นทองคำ ซึ่งอยู่ที่ 17.9% ตามมาด้วยตราสารทุนสหรัฐฯ ที่ 16.7% แต่ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดคือพันธบัตรรัฐบาลที่ติดลบอยู่ที่ -1.8% 

 

หากมองไปถึงภาพกว้างของผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศ 3 อันดับ จะมีตลาดสหรัฐฯ เติบโต 16.7% จากนวัตกรรมของประเทศ ตลาดอินเดียเติบโต 15.7% จากการบริโภคภายในประเทศ และตลาดญี่ปุ่นเติบโต 15% จากการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทำให้เงินลงทุนไหลเข้าญี่ปุ่นมากขึ้น

 

ตลาดสำคัญของพอร์ตของนักลงทุนอย่างสหรัฐฯ ก็กำลังสดใสอย่างมากที่การเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.0% โดยปัจจัยหลักคือการบริโภคภายในประเทศ ในส่วนของดัชนีราคาการใช้จ่ายผู้บริโภค (PCE) ปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 2 ทำให้ Fed มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของปีในเดือนกันยายนลงไป 0.50% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่ต้องจับตาคือ การจ้างงานที่อ่อนตัวแรงอย่างมาก และอัตราการว่างงานก็พุ่งสูงขึ้นที่ 4.3% โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 5 เดือน 

 

 

 

ในตลาดอื่นๆ นั้น ญี่ปุ่นมีค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นและภาคส่งออกยังติดลบ หันไปทางยุโรปเศรษฐกิจยังอ่อนตัวลง ส่วนจีนแผ่นดินใหญ่ภาคการบริโภคและภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เพราะขณะนี้คนจีนรัดเข็มขัดประหยัดเงินแม้จะมีเงินในมือ อีกทั้งรายได้ต่อเดือนและค่าแรงก็หดตัวลงในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

 

การคาดการณ์ EPS Growth ของ Consensus พบว่า ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) อย่างตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จะมีการขยายตัวมากกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM) รองลงมาคือตลาดหุ้น Frontier อย่างเวียดนาม 

 

Fed จะลดดอกเบี้ย กลยุทธ์การลงทุนต้องพร้อม

 

การคาดการณ์ปรับจากการลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จาก 2 ครั้งเป็น 3 ครั้งในปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะเหลือเพียง 4.75% ในปลายปี 2024 (จากเดิม 5.50%) ซึ่งยุโรปและที่อื่นๆ รวมถึงไทย ก็จะลดลงตาม แต่ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 0.50% ปลายปีนี้ และอาจเพิ่มมากขึ้นอีกในปีหน้า มีแนวโน้มที่เงินเยนจะแข็งค่าขึ้น JGB มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดมีความเสี่ยงจะเกิดแรงขายในระยะสั้น

 

เมื่อเจาะลึกไปในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นที่ทราบกันดีว่าหุ้น 7 นางฟ้าของสหรัฐฯ หรือหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ นั้นให้ผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันหุ้นในตลาด S&P 500 ตัวอื่นๆ กลับทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับ 7 หุ้นเทคมากขึ้น 

 

การลงทุนในตลาดสหรัฐฯ ณ ขณะนี้จะต้องใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Barbell โดยเน้นหุ้น Quality Growth กลุ่มหนึ่ง และเน้นไปที่หุ้น Defensive ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่ม Utilities, Health Care และ Consumer Staple อีกกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้รับมือกับการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนกลุ่มสินทรัพย์ก็คือการเน้นลงทุนหุ้นกู้เอกชน

 

การเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังคาดการณ์ไม่ได้

 

การเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ เมื่อมองย้อนไปในสถิติของการเลือกตั้งในทุกๆ ครั้งจะเกิดความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมาก และอาจเกิดการชะลอตัวของตลาดหุ้นในเดือนเลือกตั้ง

 

การถอนตัวของ โจ ไบเดน เพื่อหนุน คามาลา แฮร์ริส เป็นแคนดิเดตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แทนนั้นยังคาดการณ์ผลได้ยากอยู่ ซึ่งผลสำรวจความนิยมระหว่าง คามาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นยังใกล้เคียงกันมาก 

 

Private Credit โอกาสใหม่ในโลกการลงทุน

 

โลกการลงทุนเกิดความผันผวนตลอดเวลา ตลาดมักอ่อนไหวกับข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะความมั่นคงทางการเมือง อย่างเช่น การเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา Private Credit คืออีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนอย่างธนาคารไทยพาณิชย์เลือกสรรมาแก่นักลงทุนอย่าง Senior Loan และ Lombard Loan

 

scb-private-credit

 

 

Senior Loan เป็นสินเชื่ออีกรูปแบบหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นกับผู้กู้และผู้ให้กู้ โดยเป็นการเจรจาเงินกู้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีตัวกลาง (Arranger) จะจัดหา ระดมทุน และจำหน่ายสินเชื่อในตลาด ทั้งจากธนาคาร สถาบันการเงิน หรือกองทุน จัดหามาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้กู้ ซึ่งสามารถใช้ได้มากกว่าหนึ่งราย อีกทั้งเงินกู้ที่เหลือยังสามารถโอนไปยังตลาดรองได้ ปัจจุบันตลาด Senior Loan สหรัฐฯ อยู่ที่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (4 เท่าของ GDP ประเทศไทย) และมี Turnover ที่ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ความน่าสนใจของ Senior Loan มีเด่นๆ อยู่ทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน

 

  1. Higher Income ผลตอบแทนสูง Yield 3 ปีของตลาดสหรัฐฯ มากกว่า 9%
  2. Senior Secure ไม่ด้อยสิทธิและมีหลักประกัน
  3. Floating Rate ลักษณะการจ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
  4. Diversified ช่วยกระจายความเสี่ยง
  5. Compelling Value ผลตอบแทนปรับความเสี่ยงสูงกว่าตราสารหนี้

 

นอกจากนี้หากบริษัทผู้กู้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ สินเชื่อประเภทนี้จะได้รับการชำระหนี้ก่อนหนี้ประเภทอื่นๆ ทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าและมีการจ่ายคืนก่อน ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ได้

 

ธนาคารไทยพาณิชย์เห็นจุดแข็งตรงนี้ จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ‘กองทุน SCBSNLOAN’ กองทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ

 

Invesco Zodiac Funds – Invesco US Senior Loan Fund (กองทุนหลัก) 

 

  • ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) G Accumulation 
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) 
  • เน้นลงทุนในสินเชื่อไม่ด้อยสิทธิ (Senior Loan) ในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา 
  • สภาพคล่องสูง ซื้อ-ขายได้ทุกวัน 
  • บริหารโดย Invesco Senior Secured Management, Inc ที่มีประสบการณ์การลงทุนใน Senior Loan กว่า 30 ปี

 

ทั้งนี้ กองทุนหลักจัดเป็นกองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment Fund: AIF) ซึ่งจดทะเบียนและเสนอขายผู้ลงทุนที่มีความรู้ในการลงทุน (Well-Informed Investors) เป็นไปตามกฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก 

 

กองทุนมี Net Exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (กองทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงในระดับ 8) มูลค่าซื้อขั้นต่ำที่ 500,000 บาท ครั้งต่อไป 1,000 บาท

 

จุดเด่นของกองทุน SCBSNLOAN คือ

 

  1. ทางเลือกการลงทุนใน Private Credit ที่มีลักษณะเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ
  2. มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวัน ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกเพียง 500,000 บาท และ 1,000 บาทในครั้งต่อไป
  3. ช่วยลดความผันผวนแก่พอร์ตการลงทุน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตราสารหนี้ทั่วไป
  4. บริหารแบบเชิงรุกและมีสไตล์การลงทุน ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาด

 

นอกจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ยังส่งเสริมตัวเลือกการลงทุนของลูกค้า Private Banking ที่มีความมั่งคั่งสูงที่ต้องการติดอาวุธการเงินให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาอย่าง ‘Lombard Loan’ 

 

Lombard Loan เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่สามารถนำอสังหาริมทรัพย์หรือหลักทรัพย์ เช่น ที่ดิน หุ้นกู้ หรือกองทุน เป็นหลักค้ำประกัน และจะนำไปลงทุนในสินทรัพย์ผ่านเครือธนาคารไทยพาณิชย์อย่าง InnovestX และ SCB Julius Baer โดย Lombard Loan จะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่าต้นทุนทางการเงิน

 

การประสานกันของ Private Credit ของธนาคารไทยพาณิชย์จาก SCBSNLOAN และ Lombard Loan จะเกิดเป็นผลตอบแทน 1.5% ต่อปี

 

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising