เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) รายงานกำไรสุทธิของ 1Q67 ที่ 464 ล้านบาท (ลดลง 5.9%YoY และลดลง 32.1%QoQ) In Line กับที่คาดไว้ โดยรายได้เท่ากับ 2,701 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 26.2%YoY แต่ลดลง 13.5%QoQ) โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 39% ลดลง 11%YoY และ 36%QoQ จากการโอนที่ดิน 151 ไร่ (128 ไร่จากประเทศไทย และ 23 ไร่จากประเทศเวียดนาม แม้จำนวนการโอนที่ดินจะเพิ่มขึ้น 23 ไร่จาก 1Q66 แต่ใน 1Q67 เป็นการโอนในส่วนของระยองและเวียดนามที่มีราคาต่ำกว่าชลบุรี)
รายได้สาธารณูปโภคมีสัดส่วนรายได้ 53% มูลค่าเติบโต 88%YoY และ 13%QoQ อัตราการทำกำไรขั้นต้นเท่ากับ 36.4% ซึ่ง Gross Margin จากธุรกิจอสังหายังคงแข็งแกร่งที่ 54% และส่วนธุรกิจสาธารณูปโภคเท่ากับ 17% กำไรสุทธิของ 1Q67 คิดเป็น 21% ของเป้าปีนี้ที่คาดไว้ที่ 2,239 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18.8%YoY) ใน 1Q67 AMATA มียอดขายที่ดิน 312 ไร่
โดยในไตรมาสนี้เริ่มมีการบันทึกยอดขายจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ บ้านบึง ชลบุรี เข้ามา ซึ่งเป็นนิคมที่คาดว่าจะทำระดับ Gross Margin ได้ทีประมาณ 50% สูงกว่าระยองแต่ต่ำกว่าชลบุรี 1 ใน 1Q67 ฐานลูกค้าหลัก 86% เป็นลูกค้าชาวจีน อุตสาหกรรมที่สูงที่สุดคือ Manufacturing ที่ 32% อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ 18% เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ 17%
ดังนั้น AMATA คงเป้ายอดขายขั้นต่ำในปี 2567 ที่ 1,800-2,000 ไร่ นอกจากนี้ในปีนี้ AMATA มีการปรับราคาขายที่ดินในประเทศไปแล้วประมาณ +/-10% สำหรับลูกค้าใหม่
กระทบอย่างไร:
หลังรายงานผลประกอบการ ณ วันนี้ที่ 20 พฤษภาคม 2567 ราคาหุ้น AMATA ปรับขึ้น 1.72% สู่ระดับ 23.60 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.53% สู่ระดับ 1,383.89 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
ปัจจุบัน AMATA มี Backlog ในมือที่แข็งแกร่งถึง 14,000 ล้านบาท โดยประมาณ 13% หรือ 1,800 ล้านบาท เป็นยอดจากประเทศเวียดนาม ส่วนที่เหลือมาจากประเทศไทย คาดประมาณ 50% ของ Backlog จากไทย จะสามารถบันทึกรายได้ในปีนี้และจะหนุนให้ผลประกอบการของไตรมาสที่เหลือของปีดีขึ้นเป็นลำดับ
โดย InnovestX Research คงประมาณการรายได้รวมของปี 2567 ที่ 11,037 ล้านบาท เติบโต 16%YoY และคาดกำไรสุทธิที่ 2,239 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18.8%YoY) บนสมมติฐานของการไม่มีกำไรพิเศษจากสินทรัพย์ในปี 2567
อย่างไรก็ดี จากผลประกอบการของ 1Q67 ที่ประกาศมาคาดว่าจะเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของปี โดยคาดทิศทางผลประกอบการของ 2Q67 จะฟื้นตัวและเติบโตได้ YoY และ QoQ จากการบันทึกรายได้ของ Backlog ในมือที่มีอยู่ และการเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาคซึ่งส่งผลบวกต่อการเติบโตของ FDI และ Demand การใช้ที่ดินรวมทั้งการเปิดนิคมใหม่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี (โครงการ 2) บ้านบึง จะเป็นปัจจัยช่วยหนุนยอดขายที่ดินในปีนี้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 1,800 ไร่ ใน 1Q67 ทำได้ 17% ของเป้า
InnovestX Research ให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ฐาน PER ที่ 15.2 เท่า ซึ่งเท่ากับ PE เฉลี่ยในรอบ 6 ปีของ AMATA ได้ราคาเป้าหมาย 29.10 บาทต่อหุ้น โดยคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ: ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
ความเสี่ยงด้าน ESG: AMATA ได้จัดอยู่ในระดับ AAA ของ SET ESG Ratings ในปี 2566 โดย AMATA เน้นด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน รวมถึงการ Reuse พลังงานในพื้นที่ทุกนิคมของ AMATA ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือการบริหารจัดการพลังงานทั้งในพื้นที่นิคมและส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค