หุ้น บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค หรือ ANI เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (14 ธันวาคม) เป็นวันแรก ราคาเปิดการซื้อ-ขายที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือบวก 4.76% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 5.25 บาท
โดยระหว่างการซื้อ-ขาย ราคาหุ้น ANI ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 5.80 บาท บวก 10.48% ขณะที่ราคาลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 4.94 บาท ลบ 5.90% จากนั้นราคามาปิดการซื้อ-ขายที่ 4.98 บาท ติดลบ 5.14% จากราคา IPO
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก พบว่ามีบิ๊กคอร์ปจำนวน 2 แห่งเข้ามาถือหุ้นด้วยคือ บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของเอสซีจี และ บมจ.สกาย ไอซีที หรือ SKY
ANI เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อ-ขายใน SET ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยมูลค่าระดมทุน 2,912.38 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ 9,702 ล้านบาท
ANI ประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo General Sales Agent: Cargo GSA) ให้แก่สายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง มาเลเซีย กัมพูชา และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยบริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในรายใหญ่ของธุรกิจ GSA ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 23%
นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจให้บริการต่อเนื่อง โดยจัดหาทรัพยากรบุคลากร รวมทั้งยานพาหนะและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการแก่ผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน (Ground Handler) ของท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์
ANI มีจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO จำนวน 1,848 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 1,293.26 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 554.74 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO จำนวน 924 ล้านบาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ สัดส่วน 82% และที่เหลือให้แก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของกลุ่ม ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์
โดยมี บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
บี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ANI จะใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินจากการเข้าซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ซื้อมาในช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ตามงบการเงินรวมของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี แต่ต้องไม่เกินจำนวนกำไรสะสมจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ความจำเป็นในการดำเนินงานของบริษัท ตามที่คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเห็นสมควรหรือเหมาะสม
ANI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ หรือ III ถือหุ้นสัดส่วน 36.1% และ Thomas Tay Nguen Cheong ถือหุ้นสัดส่วน 33.2
เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกของ ANI
- บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ หรือ III ถือหุ้นสัดส่วน 36.15%
- THOMAS TAY NGUEN CHEONG ถือหุ้นสัดส่วน 33.24%
- UOB KAY HIAN PTE LTD A/C CLIENTS ถือหุ้นสัดส่วน 9.96%
- บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD ถือหุ้นสัดส่วน 4.99%
- SHAUN TAN ZHONGHAO ถือหุ้นสัดส่วน 1.75%
- บมจ.สกาย ไอซีที หรือ SKY ถือหุ้นสัดส่วน 1.55%
- CHAN SIAN KHEONG ถือหุ้นสัดส่วน 0.81%
- LGT BANK (SINGAPORE) LTD. ถือหุ้นสัดส่วน 0.63%
- แสงทอง ศรีประกอบพร ถือหุ้นสัดส่วน 0.60%
- ร.ท. วโรดม สุจริตกุล ถือหุ้นสัดส่วน 0.60%