×

BAM – Valuation ถูก แต่ขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น

14.06.2023
  • LOADING...
บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์

เกิดอะไรขึ้น:

บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ตั้งเป้าผลเรียกเก็บเงินสดใน 2Q66 ที่ 4.46 พันล้านบาท เติบโต 13%YoY และ 39%QoQ (จากปัจจัยฤดูกาล) สำหรับเดือนเมษายน-พฤษภาคม BAM เรียกเก็บเงินสดได้ราว 90% ของเป้าที่วางไว้ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งบริษัทคาดว่า จะบันทึกผลเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ NPL รายใหญ่ 1 ราย (มูลค่าราว 100 ล้านบาท) ใน 2Q66

 

ทั้งนี้ ยังได้ตั้งเป้าผลเรียกเก็บเงินสดเติบโตปีละ 4-5% ในปี 2566-2570 โดยเป้าหมายดังกล่าวอิงกับการคาดการณ์แบบ Bottom-Up และยังไม่รวมผลเรียกเก็บเงินสดจากลูกค้ารายใหญ่

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BAM ปรับลดลง 6.61%MoM อยู่ที่ระดับ 11.30 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.64%MoM อยู่ที่ระดับ 1,551.41 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

เมื่ออิงกับเป้าผลเรียกเก็บเงินสดที่ BAM วางไว้ใน 2Q66 InnovestX Research คาดว่า กำไร 2Q66 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY แต่จะลดลง QoQ (ผลเรียกเก็บเงินสดดีขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง และอัตราภาษีที่แท้จริงสูงขึ้น) ขณะที่ปี 2566 คาดว่ากำไรจะเติบโตเล็กน้อย 2% โดยเกิดจากผลเรียกเก็บเงินสดที่เติบโต 5% อัตรากำไรขั้นต้นในระดับทรงตัว ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 15 bps และอัตราภาษีที่แท้จริงที่เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2565 สู่ 20% 

 

อย่างไรก็ดี แม้ Valuation ถูก หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาแล้ว 40% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่กลยุทธ์การลงทุนยังคงเรตติ้ง Neutral สำหรับ BAM และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 14 บาทต่อหุ้น (P/BV 1 เท่า หรือ P/E 16 เท่า ในปี 2566) เนื่องจากมองว่าปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นมีจำกัด เพราะคาดว่ากำไรจะเติบโตเพียงเล็กน้อย และการแข่งขันจะสูงขึ้น

 

ปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญคือ BAM อยู่ระหว่างการจัดตั้ง JV AMC กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธุรกิจนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมนอกเหนือจากการแบ่งปันผลกำไร เป็นบวกต่อ ROE ในระยะกลางถึงระยะยาว

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1. ความเสี่ยงด้านการเรียกเก็บเงินสดจากเงินเฟ้อสูงและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, 2. ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3. การแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X