โจนาธาน การ์เนอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์เอเชียและตลาดหุ้นเกิดใหม่ของ Morgan Stanley ซึ่งเคยออกมาเตือนเกี่ยวกับมูลค่าที่สูงเกินไปและปัจจัยเสี่ยงในระดับมหภาคของตลาดหุ้นจีน ก่อนที่ตลาดจะร่วงลงมาอย่างหนักในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน
ล่าสุดในขณะที่นักกลยุทธ์หลายสำนัก รวมถึง Goldman Sachs Group Inc. เชื่อว่าตลาดหุ้นจีนจะให้ผลตอบแทนเกินกว่า 10% ในปีนี้ แต่การ์เนอร์มองว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าหุ้นจีนผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
“ถามว่าอีกนานแค่ไหนสำหรับตลาดหมีรอบนี้ เรามองว่ามันใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่เราเชื่อว่าการหั่นเรตติ้งเกี่ยวกับการเติบโตของจีนและตลาดหุ้นเกิดใหม่อื่นๆ อาจจะยังมีให้เห็นอีก”
ตลาดหุ้นจีนเริ่มต้นปี 2022 ด้วยการฟื้นตัวจากปีก่อน หลังจากนักลงทุนเชื่อว่าความเสี่ยงจากการคุมเข้มของทางการจีนน่าจะผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว รวมทั้งคาดหวังต่อการผ่อนคลายทางนโยบายการเงิน
ขณะที่ดัชนี Hang Seng China Enterprises เพิ่มขึ้น 6% ในปีนี้ โดดเด่นกว่าดัชนี S&P 500 ซึ่งปรับตัวลดลง 8% การปรับตัวขึ้นลงที่สวนทางกันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายทางการเงินที่แตกต่างกัน โดยรัฐบาลจีนมีท่าทีจะผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศชัดเจนว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะมีให้เห็นในเดือนมีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม การ์เนอร์มองว่าการลดลงของผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของหุ้นจีนและการผิดนัดชำระหนี้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวล ทั้งนี้ ROE ของ MSCI China Index พุ่งแตะจุดสูงสุดระหว่างปี 2007-2008 ที่ประมาณ 18% ขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 12%
“โมเดลคำนวณเกี่ยวกับผลกำไรของหุ้นจีนแสดงให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ หุ้นจีนในขณะนี้ซื้อขายอยู่บน +2SD เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะกลางในอดีต”
แน่นอนว่ามีเงินทุนมหาศาลไหลเข้ามาในตลาดอย่างรวดเร็ว แต่มันไปหนุนให้มูลค่าสูงเกินไป โดยอิงจากปัจจัยมหภาคและการคาดการณ์กำไรที่เรายังไม่ได้เชื่อว่าจะเกิดขึ้น ทำให้เรามองไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่ากำไรของหุ้นจีนยังไม่ได้ผ่านรอบของจุดต่ำสุด
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP