เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ได้เปิดเผยเป้าหมายทางการเงินปี 2564 ดังนี้
- การตั้งสำรองปี 2564 ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท (3-4 พันล้านบาท มาจาก Permata) หรือคิดเป็น Credit Cost ที่ 0.95% เทียบกับปี 2563 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น Credit Cost ที่ 1.4% ซึ่งหมายความว่า BBL จะเป็นธนาคารรายแรกที่สามารถตั้งสำรองลดลงสู่ระดับก่อนโควิด-19 (ปี 2560-2561) โดยนโยบายการเร่งตั้งสำรองล่วงหน้าทำให้ Credit Cost ของ BBL ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วที่ 1.56% ในปี 2562
- ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2564 เติบโต 3-4%YoY เทียบกับเติบโต 14.7%YoY ในปี 2563 ซึ่งหากไม่รวม Permata การเติบโตของสินเชื่อจาก BBL เองในปี 2563 จะอยู่ที่ 2.7%YoY โดยการเติบโตของสินเชื่อปี 2564 จำแนกเป็น สินเชื่อธุรกิจเติบโต 3-4%YoY, สินเชื่อ SMEs เติบโต 1%YoY, สินเชื่อรายย่อยเติบโต 2-3%YoY, และสินเชื่อกิจการต่างประเทศเติบโต 6-7%YoY จาก Permata ซึ่งคิดเป็น 10% ของสินเชื่อในงบการเงินรวมของ BBL
- คาดอัตราส่วน NPL ปี 2564 เพิ่มขึ้นสู่ 4.5% เทียบกับ 3.9% ในปี 2563 เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ระลอกใหม่
- คาดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ปี 2564 ลดลงสู่ระดับ 2.1% จาก 2.25% ในปี 2563
- รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิปี 2564 พลิกเป็นเติบโต 3-4%YoY จากหดตัว 13%YoY ในปี 2563 โดยได้รับการสนับสนุนจากการรวมงบการเงินของ Permata เต็มปีผ่านบริการประกันผ่านธนาคาร และบริการกองทุนรวม
- ตั้งเป้าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2564 ไม่เกิน 50% เทียบกับ 55.6% ในปี 2563
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2564) ราคาหุ้น BBL ปรับตัวขึ้น 5.28%DoD สู่ระดับ 129.50 บาท ตามทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้น 19.82 จุดหรือ 1.32%DoD สู่ระดับ 1,516.43 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังด้านการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เสนอโดยโจ ไบเดน
มุมมองระยะสั้น:
ในระยะสั้น SCBS คาดว่าผลประกอบการ 1Q64 ของ BBL จะเติบโต QoQ จากการตั้งสำรองที่ทยอยลดลง โดยผู้บริหารเชื่อมั่นว่าการตั้งสำรองที่ผ่านมาเพียงพอต่อความเสี่ยงในอนาคตแล้ว ซึ่งปัจจุบัน BBL มี LLR Coverage ที่ 182% (ณ สิ้นปี 2563) ทั้งนี้ ต้องติดตามความเสี่ยงระยะสั้นจากทิศทาง NPL ที่อาจเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายจากผลกระทบของโควิด-19 รอบใหม่ รวมถึงความเสี่ยงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในอนาคต
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าผลประกอบการของ BBL จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2564 และ 2565 ซึ่งหลักๆ มาจากการตั้งสำรอง และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลง และ NIM มีแนวโน้มหดตัวลง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
