ในโลกแฟชั่นยุคปัจจุบัน เราเห็นเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจเกิดขึ้น นั่นคือการจ้างคนดัง, ศิลปิน, แรปเปอร์ และครีเอเตอร์มีชื่อเสียงให้มาทำหน้าที่เป็น Creative Director ให้กับแบรนด์แฟชั่นหรือไลฟ์สไตล์แบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่การให้ชื่อเสียงมาประดับตรา (name-dropping) เท่านั้น แต่ยังเป็นการผสานอัตลักษณ์และแง่มุมของครีเอเตอร์เข้ากับแบรนด์ เพื่อสร้างเรื่องราวใหม่ๆ เชื่อมโยงกับผู้บริโภคยุคใหม่
การนำคนดังมารับบทบาทครีเอทีฟไดเรกเตอร์มีจุดดีหลายข้อ อย่างแรกคือ การเป็นผู้นำอินฟลูเอนซ์เชิงวัฒนธรรม (cultural influence) เพราะคนดังมีฐานแฟน, ผู้ติดตาม และมีอิทธิพลทางความคิดอยู่แล้ว เมื่อแบรนด์เชื่อมโยงกับชื่อเสียงเหล่านั้นช่วยส่งผลให้แบรนด์ดูสดใหม่และเข้ากับกระแสวัฒนธรรมใหม่ได้เร็วขึ้น เมื่อครีเอทีฟไดเรกเตอร์เป็นคนมีมุมมองเฉพาะตัว ผลงานจะสะท้อนตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงอัตลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปดูลิสต์รายชื่อของคนดังที่ก้าวข้ามบทบาทของตนเองสู่ฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์ดัง
Pharrell Williams for Louis Vuitton
Pharrell Williams ถูกแต่งตั้งให้เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ฝั่งผู้ชายของ Louis Vuitton ตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเคยมีความสัมพันธ์ร่วมงานกับ LV ในรูปแบบคอลแลบ เช่น การออกแบบแว่นตา,ครื่องประดับ และการเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมในแคมเปญต่างๆ จนกระทั่งการเข้ามารับช่วงต่อในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ต่อจาก Virgil Abloh คอลเล็กชั่นเปิดตัวของเขา Spring – Summer 2024 บ่งชี้วิสัยทัศน์ใหม่ในการนำเอาวัฒนธรรมการแต่งตัวแบบสตรีทมาสอดประสานกับสินค้าลักชัวรี และการเลือกใช้โทนสี แรงบันดาลใจจากดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรมร่วมสมัย การมาของ Pharrell สร้างโอกาสให้ LV ได้ “รีบูตภาพลักษณ์” หลังการจากไปของ Virgil เพราะ Pharrell มีศักยภาพในด้าน cross-discipline ของศิลปะ ดนตรี และแฟชั่น ซึ่งช่วยเสริมความเกี่ยวโยงกับผู้บริโภครุ่นใหม่ และยังเป็นการแสดงว่า LV ยังคงกล้าที่จะทดลองไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ
Kendall Jenner for FWRD
นอกจากการเป็นนางแบบระดับโลกและแบรนด์เตกีล่าของตนเอง อีกหนึ่งบทบาทของ Kendall Jenner คือบทบาทของครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ e-tailer หรูอย่าง FWRD ตั้งแต่ปี 2021 หน้าที่ของเธอคือดูแล “look and feel” ของเว็บไซต์, คัดสรรแบรนด์ที่จำหน่าย, คัดสรร monthly edits, งานแคมเปญ และการสื่อสารทางการตลาดร่วมกับแบรนด์พันธมิตร อีกหนึ่งความพิเศษคือคอลัมน์ Kendall’s Edit คอลเล็กชันเฉพาะที่เธอเลือกเองให้วางขายอยู่บนแพลตฟอร์มของ FWRD เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อได้ทันที รวมถึงการทำแคมเปญที่เธอจะเลือกทีมมาทำงานเพื่อคอลเล็กชันนี้โดยเฉพาะ เธอไม่ได้แค่เป็นหน้าตาแบรนด์ แต่มีส่วนในการคัดเลือกเรื่องภาพ การจัดวางสินค้า และการกำหนดโทนภาพรวมให้กับแบรนด์ ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ในเชิงความรู้สึกและแนวคิด
Jaden Smith for Christian Louboutin
ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมามีข่าวว่า Jaden Smith ขึ้นรับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์ Christian Louboutin ซึ่งบทบาทของเขาจะเข้ามาดูแลไลน์ของผู้ชาย โดยดูแลสี่คอลเล็กชันต่อปี ครอบคลุมรองเท้า, เครื่องหนัง และแอคเซสเซอรี พร้อมกับการกำหนดทิศทางภาพลักษณ์ของแบรนด์ในแคมเปญการตลาด การร่วมงานกันครั้งนี้ของทั้งคู่เกิดจากความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Jaden และ Christian หลังจากที่เคยพบปะพูดคุยกันตามงานต่างๆ มาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งการเติบโตทางบทบาทของ Jaden ในครั้งนี้ถือว่าใหม่ทั้งสำหรับตัวเขาและแบรนด์ Louboutin อย่างมาก อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าบทบาทของเขาหมายถึงการเติมไอเดียใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเฉพาะในฝั่ง Menswear ที่มักถูกมองว่าอนุรักษ์นิยม และยังช่วยดึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ติดตาม Jaden ในฐานะศิลปินและแฟชั่นไอคอน
SZA for Vans
ข่าวการที่ SZA จะเข้ามามีบทบาทกับ Vans ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์สร้างข้อถกเถียงในวงการแฟชั่นว่าทำไมเราต้องการเซเลบริตี้มาดูแลเรื่องภาพลักษณ์และมีส่วนออกแบบสินค้า ในแง่ของแบรนด์เอง การได้คนทรงอิทธิพลอย่าง SZA เข้ามาช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะเธอนั้นมีเพลงฮิตติดชาร์ตมากมายและยังมีฐานแฟนเพลงขนาดใหญ่ การมาของ SZA จะช่วยแบรนด์ในแง่การออกแบบลวดลาย, การเลือกวัสดุ หรือการออกแบบคอลเล็กชันพิเศษ (collab) ที่สะท้อนรสนิยมส่วนตัวของเธอ และการสื่อสารแบรนด์ผ่านภาพลักษณ์ร่วมสมัย เช่น การดีไซน์ลายกราฟิกที่มีอารมณ์เพลง หรือโทนสีที่สื่ออารมณ์เพลง R&B และ Soul ของเธอ ดังนั้นเมื่อนำมาเชื่อมกับรองเท้า Vans ซึ่งเป็นที่นิยมในวงสตรีท ยิ่งเป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้แบรนด์ และเปิดประตูให้กลุ่มที่อาจไม่เคยเข้าถึง Vans แบบเดิมมาเป็นผู้บริโภคใหม่
Cardi B for Playboy
Cardi B ได้รับบทบาทครีเอทีฟไดเรกเตอร์ร่วมงานกับ Playboy ช่วยดูในแง่ของงานดีไซน์และคอลาบอเรชั่นพิเศษ ซึ่งเธอมีส่วนในการรังสรรค์ดีไซน์ลวดลาย, ไลน์แคปซูล และการออกแบบสินค้า โดยใช้บุคลิกทรงพลังของเธอเป็นแรงขับเคลื่อนเรื่องภาพลักษณ์ สิ่งที่โดดเด่นคือ เธอกล้าคอนทราสต์ จากศิลปินฮิปฮอป สู่แบรนด์ Playboy ที่มีประวัติศาสตร์ด้านความเซ็กซี่, วัฒนธรรมดิสโก้ และไลฟ์สไตล์กลางคืน การมีชื่อ Cardi B เข้ามาเป็นเสมือนสะพานระหว่างแบรนด์ดั้งเดิมกับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจกับศิลปวัฒนธรรมของเพลงและสตรีทแฟชั่น ผลงานของเธอมักเป็นลิมิเต็ดคอลเล็กชันที่สร้างความสนใจในสื่อ และช่วยให้ Playboy ดูสดใหม่ขึ้นในสายตาคนรุ่นใหม่
Central Cee for BAPE x SYNA World Cup
ล่าสุด Central Cee ถูกแต่งตั้งเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์สำหรับคอลเลกชัน BAPE × SYNA World (ซึ่ง BAPE ร่วมมือกับ SYNA, Spotify) ข้อตกลงนี้เปิดเผยว่าเขาจะดูแลตั้งแต่ดีไซน์คอลเล็กชัน ไปจนถึงการกำกับและผลิตภาพยนตร์โปรโมชันของแคมเปญเปิดตัว ในคอลเล็กชันเปิดตัวจะมีเสื้อยืดพิเศษสำหรับแฟน Spotify ที่จะวางขายก่อน และจากนั้นจะปล่อยทั้งคอลเล็กชันในเดือนพฤศจิกายน 2025 นี้ บทบาทของ Central Cee ไม่ใช่แค่ชื่อบนเสื้อ แต่มีอำนาจควบคุมเรื่องภาพ (visual) คอนเซปต์ และกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้กำหนดทิศทางศิลปะของแบรนด์ในโปรเจกต์นี้ ความน่าสนใจคือ การนำแบรนด์ streetwear ระดับตำนานอย่าง BAPE มาผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมของดนตรีนำโดย Central Cee ทำให้เกิดการผสมผสานของ legacy และนวัตกรรม ซึ่งสามารถดึงฐานแฟนเพลงและแฟนสตรีทแฟชั่นเข้ามาหาแบรนด์ได้
A$AP Rocky for Ray-Ban
เมื่อไม่นานมานี้ Ray-Ban ได้ประกาศให้ ASAP Rocky ขึ้นรับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนแรกของแบรนด์อย่างเป็นทางการ หลังจากข่าวนี้ออกไป วงการแฟชั่นต่างตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการเป็นศิลปินฮิปฮอปแล้วนั้น เขายังเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านวัฒนธรรมการแต่งตัวแนวสตรีท การจับมือกันครั้งนี้ หลายคนจึงคาดการณ์ว่าเขาจะสามารถพา Ray-Ban ไปในทิศทางใหม่ที่น่าสนใจขึ้นได้ แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงวิธีการตีความของเขา โดยนำเอาความคลาสสิกของ Ray-Ban มาผนวกเข้ากับดนตรี, ฮิปฮอป และสตรีทแฟชั่น ซึ่งน่าจะสะท้อนผ่านกรอบแว่น ลายแว่น รวมถึงภาพแคมเปญในอนาคตที่น่าจะสามารถดึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ มาที่แบรนด์ได้อีกครั้ง
ภาพ: Getty Images